สถานการณ์เด็ก-สตรี ปี 58-59 หลายด้านก้าวหน้า-เหลื่อมล้ำ

กรุงเทพฯ27 มี.ค-เปิดผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีปี58-59 พบความเป็นอยู่เด็กสตรีไทย ก้าวหน้าขึ้นหลายด้าน  แต่ก็ยังมีความเหลื่อมล้ำ เด็กและครอบครัวยากจน อาศัยในพื้นที่ห่างไกลได้รับการดูแลน้อย เสนอ สธ.-ศธ.-พม.ร่วมดีอี พัฒนาร่วมกัน 


นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานแถลง “ผลการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยพ.ศ.2558-2559 ที่สำนักงานสถิติแห่งชาติ  ร่วมกับ  องค์การยูนิเซฟประเทศไทยจัดขึ้น เพื่อเผยแพร่ข้อมูลการสำรวจความเป็นอยู่ของเด็กและสตรีในด้านต่างๆ หลังเก็บข้อมูลครอบครัวกว่า 28,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ  ซึ่งคาดว่าจะเป็นประโยชน์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลไปกำหนดนโยบาย วางแผนและติดตามประเมินผลการพัฒนาเด็กและสตรี 


นายพิเชษ กล่าวว่าผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าแม้ความเป็นอยู่ของเด็กและสตรีในไทยจะมีความก้าวหน้ามากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นการที่เด็กมีอัตราการจดทะเบียนเกิดถึงร้อยละ 99,ร้อยละ 98 เด็กเเละสตรีได้ใช้น้ำดื่มจากเเหล่งน้ำที่สะอาด ,ร้อยละ 95  เข้าเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา ,ร้อยละ 42 ทารกอายุต่ำว่า 6 เดือนได้กินนมแม่  ส่งผลต่อโภชนาการที่ดี เป็นต้น แต่ยังมีความเหลื่อมล้ำด้านต่างๆเกิดขึ้น  เช่น เด็กที่อยู่ในพื้นที่ชนบท ครอบครัวยากจน พ่อเเม่ขาดการศึกษา ส่งผลให้เด็กมีปัญหาด้านสุขภาพเเละพัฒนาการ โดยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีภาวะเตี้ยเเคระเกร็น ในอัตรา 1:10 คน, เด็กผู้ชายเเละเด็กในภาคใต้มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานเเละมีภาวะโภชนาการเฉียบพลันสูงกว่าเด็กกลุ่มอื่น ,ร้อยละ 41 ของเด็กอายุต่ำกว่า5ปีมีหนังสือเด็กอย่างน้อย 3 เล่มอ่านที่บ้านทั้งที่เป็นสิ่งจำเป็นต่อพัฒนาการ , ร้อยละ 24 ของเด็กที่เเม่ไม่มีการศึกษาไม่ได้เข้าเรียนในชั้นมัธยมศึกษา,ไทยมีคุณแม่วัยใสมากที่สุดอันดับ 4 ในอาเซียนโดยวัยรุ่นช่วง 15-19ปี ที่จบเพียงชั้นประถมศึกษาให้กำเนิดบุตรสูงสุด 104:1,000 คน, เด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี 3 ล้านคนไม่ได้อยู่กับพ่อเเม่ทั้งๆที่พ่อเเม่ยังมีชีวิตอยู่ เด็กตัดสินใจศึกษาต่อในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับอุดมศึกษาร้อยละ 71เเละสตรีขาดการเข้าถึงข้อมูลเเละบริการที่จำเป็นต่อการพัฒนาตนเอง เป็นต้น ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ต้องช่วยกันทำงานเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตโดยในส่วนตนได้ประสาน งานกับ สธ. นำเทคโนโลยีเชื่อมโยงกับการบริการด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย


นายโธมัส ดาวิน ผู้เเทนองค์การยูนิเซฟ กล่าวว่า ผลสำรวจตอกย้ำว่าความเป็นอยู่ที่เเตกต่างกันของเด็กกลุ่มต่างๆ ขึ้นอยู่กับพื้นที่อยู่อาศัย ชาติพันธุ์ รายได้ของครอบครัวเเละระดับการศึกษาของเเม่ โดย เฉพาะเด็กเเละสตรีที่ยากจนเเละอยู่ในชนบท ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวกับควรดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาสถานการณ์เด็กและสตรีให้ดียิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานฉบับนี้สำรวจข้อมูลในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการศึกษาและสาธารณสุข อาทิการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และโภชนาการของเด็ก การพัฒนาปฐมวัย อัตราการเข้าเรียน  การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับเอชไอวี/เอดส์ การเลี้ยงดูและการสร้างวินัยในเด็ก เด็กที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เป็นต้น ซึ่งสามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ www.unicef.org/thailand/tha/resources.html.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]