กรุงเทพฯ 27 มี.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยอมรับย้ายผู้อำนวยการขสมก.ไปสำนักนายกรัฐมนตรี
ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันที่ยังไม่ได้ข้อยุติ
ระบุหลังจากนี้
ขสมก.จะต้องเร่งพิสูจน์เพื่อแก้ปัญหา
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยอมรับว่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งให้นายสุระชัย
เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
ไปปฎิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีในการบริหารจัดการอัตรากำลัง
กรณีมีอัตราว่างสามารถจัดกำลังไปลงในอัตรานั้นได้ ซึ่งคำสั่งนี้มีผลทันที
ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2560 โดยตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ขสมก.ที่ว่างลง
เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหาร ขสมก.ที่มี พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์
เป็นประธานจะพิจารณาแต่งตั้งรักษาการ คาดว่าคณะกรรมการขสมก.จะเรียกประชุมวันนี้ (27 มี.ค.)
ส่วนสาเหตุการโยกย้ายนายสุระชัยพ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการ ขสมก.นั้น
มาจากปัญหาการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน หรือไม่นั้น นายอาคมกล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่ง
เนื่องจากการจะรับรถหรือไม่ เป็นอำนาจของผู้ซื้อที่จะพิจารณา นอกจากผู้อำนวยการ ขสมก.จะเป็นผู้ลงนามแล้ว
ยังมีคณะกรรมการ ขสมก.ที่จะช่วยพิจารณาด้วย กรณีมีข้อผิดพลาดไปจากที่สั่งซื้อผู้อำนวยการ
ขสมก.จะต้องพิจารณาเรื่องแหล่งกำเนิดรถ แหล่งประกอบรถ
ว่าเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาและทีโออาร์หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง คงไม่มีใครกล้ารับรถ หลังจากนี้ ขสมก.จะต้องเร่งพิสูจน์เพื่อแก้ปัญหา
แต่คงไม่สามารถระบุได้ว่า ปัญหาเรื่องการซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจะได้ข้อยุติเมื่อไร
เพราะต้องให้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบและเป็นไปตามข้อกฎหมาย
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี
ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า คำสั่งให้ผู้อำนวยการ ขสมก. ไปปฎิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ใช่เป็นการใช้อำนาจตาม ม.44 ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.)
แต่เป็นการใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไปปฎิบัติหน้าที่อื่นในอัตราที่มีการเพิ่มขึ้นเฉพาะ
เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน. -สำนักข่าวไทย