กรุงเทพฯ
26 มี.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยัน โครงการรถไฟสายใหม่
เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว
พร้อมเดินหน้าโครงการตามแผนเดิม
ขณะเดียวกันตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการเดินทางโดยระบบรางจาก 2% ในปัจจุบัน เป็น 5-10% หลังจากโครงสร้างพื้นฐานระบบรางแล้วเสร็จ
นายอาคม
เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนาการรถไฟแห่งประเทศไทยก้าวสู่ 120 ปี
ว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบราง
และส่งเสริมการเชื่อมโยงประเทศในภูมิภาคอาเซียนตามแผนแม่บท ว่าด้วยการเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน
ที่เน้นการเชื่อมโยง 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย
การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงด้านกฎระเบียบ
และการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน โดยได้ตั้งเป้าขยายสัดส่วนการขนส่งโดยระบบราง
(ทั้งผู้โดยสารและสินค้า) จากปัจจุบัน 2% เพิ่มเป็น 5-10% ของการเดินทางทุกระบบ
โดยจะมาจากการพัฒนาระบบขนส่งทางรางในกรุงเทพและปริมณฑล เช่นรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ ,รถไฟทางคู่เชื่อมระหว่างเมือง และ
รถไฟความเร็วสูง ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ
และหากโครงสร้างพื้นฐานพร้อม และเริ่มเปิดให้บริการ ก็เชื่อว่าจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนรูปแบบการเดินทาง
จากการเดินทางทางถนน ที่มีอยู่กว่า 80% มาสู่การเดินทางโดยระบบรางมากขึ้น
ส่วนกรณีความกังวลเรื่องความล่าช้าในโครงการ
รถไฟสายใหม่ เส้นทาง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า
อาจล่าช้าออกไปอีก 3-4 ปี เนื่องจากไม่ผ่านผลการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมนั้น
นายอาคม ยืนยันว่า โครงการดังกล่าว ผ่านการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมแล้ว
เตรียมเสนอโครงการต่อ สภาพัฒน์ และ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี คาดว่า
จะเสนอได้ภายในเดือน เมษายน-พฤษภาคมนี้ ยืนยันโครงการเป็นไปตามแผนไม่ได้ล่าช้า
และไม่ได้รับผลกระทบจากการทบทวนโครงการจากซุปเปอร์บอร์ดเหมือนกับ 5
โครงการรถไฟทางคู่ที่มีการทบทวนทีโออาร์ ซึ่งจะได้ความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า
สำหรับกิจกรรมภายในงานวันคล้ายวันสถาปนาการรถไฟแห่งประเทศไทยครบ
120 ปี
มีการปล่อยขบวนรถจักรไอน้ำขบวนพิเศษนำเที่ยว กรุงเทพ-อยุธยา-กรุงเทพ
และพิธีเปิดนิทรรศการ 120
ปี การรถไฟแห่งประเทศไทย
ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ
มาเก็บภาพที่ระลึกและร่วมเดินทางกับขบวนรถไฟพิเศษจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย
