บอร์ดบีโอไอเห็นชอบส่งเสริมผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

ทำเนียบรัฐบาล  24 มี.ค. – บอร์ดบีโอไอเห็นชอบส่งเสริมลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เปิดทางเอสเอ็มอียื่นขอรับส่งเสริมกิจการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ พร้อมเปิดให้การส่งเสริมกิจการด้านบริการทางการแพทย์


นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน  ว่า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยและสอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยียานยนต์ของโลก ที่ประชุมจึงเห็นชอบส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนกิจการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า และกิจการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้น จะให้การส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า 3 แบบ ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและพลังงานไฟฟ้า และรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่  โดยให้ส่งเสริมการผลิตทั้งรถยนต์นั่ง  รถกระบะ และรถโดยสาร และให้ได้รับสิทธิและประโยชน์แตกต่างกันตามระดับเทคโนโลยีในการผลิต


ทั้งนี้ ที่ประชุมได้กำหนดเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ของแต่ละประเภทกิจการดังนี้ กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม ผู้สนใจขอรับส่งเสริมจะต้องยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 จะต้องเสนอเป็นแผนงานรวม ประกอบด้วย โครงการประกอบรถยนต์ และโครงการผลิตหรือใช้ชิ้นส่วนสำคัญๆ ส่วนสิทธิและประโยชน์จะได้รับเฉพาะการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร  กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก จะต้องเสนอเป็นแผนงานรวม ประกอบด้วย โครงการประกอบรถยนต์และโครงการผลิตหรือใช้ชิ้นส่วนสำคัญ จะต้องยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 จะได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี ทั้งนี้หากมีการผลิตชิ้นส่วนสำคัญมากกว่า 1 ชิ้น จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นชิ้นละ 1 ปี แต่รวมแล้วไม่เกิน 6 ปี 

กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ จะต้องเสนอเป็นแผนงานรวม ประกอบด้วย โครงการประกอบรถยนต์ และโครงการผลิตหรือใช้ชิ้นส่วนสำคัญ จะต้องยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 จะได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตั้งแต่ 5 – 8 ปี ทั้งนี้ หากมีการผลิตหรือใช้ชิ้นส่วนสำคัญมากกว่า 1 ชิ้น จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นชิ้นละ 1 ปี แต่รวมแล้วไม่เกิน 10 ปี กิจการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ จะต้องเสนอเป็นแผนงานรวม ประกอบด้วย โครงการประกอบรถยนต์และโครงการผลิตหรือใช้ชิ้นส่วนสำคัญ จะต้องยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 จะได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี และหากมีการผลิตหรือใช้ชิ้นส่วนสำคัญมากกว่า 1 ชิ้น จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นชิ้นละ 1 ปี รวมแล้วไม่เกิน 6 ปี โดยกิจการนี้ ที่ประชุมเห็นว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่มีศักยภาพที่จะทำการผลิตได้ ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการส่งเสริมเอสเอ็มอี ซึ่งจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลมากกว่าเกณฑ์ปกติ 2 ปี 

กิจการผลิตชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มชิ้นส่วนอีก 10 รายการที่จะให้การส่งเสริมให้ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ได้แก่ กิจการผลิตแบตเตอรี่ กิจการผลิต Traction Motor กิจการผลิตระบบปรับอากาศด้วยไฟฟ้าหรือชิ้นส่วน กิจการผลิตระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ กิจการผลิตระบบควบคุมการขับขี่ กิจการผลิต On-Board Charger กิจการผลิตสายชาร์จแบตเตอรี่พร้อมเต้ารับ-เต้าเสียบ กิจการผลิต DC/DC Converter กิจการผลิต Inverter กิจการผลิต Portable Electric Vehicle Charger กิจการผลิต Electrical Circuit Breakerกิจการพัฒนาระบบอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะ (EV Smart Charging System) และกิจการผลิตคานหน้า/คานหลังสำหรับรถโดยสารไฟฟ้า และหากตั้งโครงการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และยื่นขอรับส่งเสริมภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2560 จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 เป็นเวลา 5 ปี


กิจการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จะต้องเสนอแผนการจัดหาอุปกรณ์และชิ้นส่วน จะต้องเสนอแผนพัฒนาระบบอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะจะต้องยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 โดยให้ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี และยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ส่งเสริมกิจการบริการทางการแพทย์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการบริการทางการแพทย์ครบวงจร โดยจะเปิดประเภทให้ส่งเสริม 4 กิจการ ได้แก่ 1. กิจการบริการสาธารณสุขด้านแพทย์แผนไทย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการบริการในอนาคต โดยจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี  2. กิจการศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจ (โรคหลอดเลือดหัวใจ ผ่าตัดหัวใจ และหัวใจล้มเหลว) ด้านมะเร็ง (เคมีบำบัด และรังสีวิทยา) และด้านไต (ศูนย์ไตเทียม) ซึ่งเป็นโรคที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในลำดับต้นๆของคนไทย ซึ่งจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี  

3. กิจการสถานพยาบาล ให้การส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เฉพาะเพื่อเป็นการกระจายการให้บริการไปอย่างทั่วถึงสำหรับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล โดยให้การส่งเสริมกิจการสถานพยาบาลเฉพาะใน 20 จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำ หรือใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน ซึ่งจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี และ 4. กิจการบริการขนส่งผู้ป่วย แพทย์ หรืออุปกรณ์การแพทย์ ทั้งทางอากาศ ทางบก ทางเรือ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสถานพยาบาลได้รวดเร็ว โดยจะให้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยประเทศอาเซียนส่งข้อเสนอถึงสหรัฐ รอคุยกำแพงภาษี

มาเลเซีย 27 พ.ค.- นายกฯ ระบุประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 ไทยได้ประโยชน์ ร่วมมือแก้ปัญหาอาเซียน-จับเข่าคุยกับประเทศอาหรับ-จีน มั่นใจสร้างความมั่นคง มั่งคั่งระหว่างกัน เผยประเทศอาเซียนส่งข้อเสนอถึงสหรัฐ รอนัดคุยกำแพงภาษี ยันไทยไม่ช้าเกินไป นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 46 ณ กรุงกลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า พอใจผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยมีผลสำเร็จสำคัญ 2 ประการ คือ 1) อาเซียนได้ลงนามและตกลงในปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน 2045: อนาคตร่วมกันของเรา (Kuala Lumpur Declaration on ASEAN 2045: Our Shared Future) เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ฉบับใหม่ที่กำหนดทิศทางการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนในอีก 20 ปีเพื่อรับรองวิสัยทัศน์นี้ 2) เป็นครั้งแรกที่มีการประชุม 3 ฝ่าย ระหว่าง อาเซียน คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ(GCC) […]

น้ำหลากจากดอยอินทนนท์ทะลักท่วมชุมชนริมน้ำ

เชียงใหม่ 27 พ.ค. – จ.เชียงใหม่ ยังมีฝนตกหนักเป็นระยะ โดยเฉพาะบนดอยอินทนนท์ ปริมาณฝนตกมากกว่า 130 มิลลิเมตร ทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลหลากลงสู่น้ำตกและลำน้ำหลายสาย ทะลักท่วมบ้านเรือนในชุมชนริมน้ำ อ.จอมทอง ชาวบ้านกังวลน้ำจะท่วมใหญ่เหมือนปีที่แล้ว ขณะที่อำเภอทางตอนเหนือของเชียงใหม่ ถนนถูกน้ำป่ากัดเซาะจนเส้นทางขาด ต้องใช้การเดินเท้าขนย้ายผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลอย่างทุกลักทุกเล.-สำนักข่าวไทย

KNLA บุกโจมตีฐานทิบาโบ ชาวเมียนมาอพยพข้ามมาฝั่งไทย

ตาก 27 พ.ค.- เดือดอีก กองกำลัง KNLA บุกโจมตีทหารเมียนมา ถล่มฐานทิบาโบ ผู้หนีภัยสู้รบในเมียนมาหลายร้อยคน อพยพข้ามมาฝั่งไทย พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) เปิดเผยว่า ตลอดช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่ายวันนี้ กองกำลังปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง (กกล.KNLA) รวมกำลังเข้าโจมตีทหารเมียนมา ที่ฐานทิบาโบ บ.ทิบาโบ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา โดยใช้โดรนโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิด, จรวด, ปืนกล และปืนซุ่มยิง ด้านทหารเมียนมาใช้เครื่องยิงลูกระเบิดตอบโต้อย่างหนัก บริเวณฝั่งตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ส่งผลให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) อพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 3 แห่ง รวม 290 คน รายละเอียดดังนี้ โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กกล.นเรศวร ร่วมกับฝ่ายปกครอง ,จนท.ตร.สภ.พบพระ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ที้งนี้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู […]

น้ำท่วมภูกระดึง จ.เลย บ้านจมกว่า 150 หลัง

เลย 27 พ.ค. – บ้านเรือนใน อ.ภูกระดึง จ.เลย ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 150 หลังคาเรือน หลังฝนตกต่อเนื่อง ด้าน ปภ.แจ้งเตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งริมแม่น้ำพอง กระทบ ต.ภูกระดึง และ ต.ศรีฐาน ให้ยกของขึ้นที่สูง เคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางไปอยู่ในที่ปลอดภัย สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 ตำบลของ อ.ภูกระดึง จ.เลย บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 150 หลังคาเรือน หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ระดับแม่น้ำพองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านติดริมแม่น้ำ จากภาพมุมสูงจะเห็นได้ว่าลำน้ำพองที่ไหลลงมาจาก อ.ภูกระดึง และลำน้ำพองโก ที่ไหลมาจากด้านหลังของอุทยานฯ ไหลมารวมกันที่แม่น้ำพอง มวลน้ำทั้งหมดนี้ไหลผ่าน ต.ผานกเค้า ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง จ.เลย และ จ.ขอนแก่น จนถนนถูกตัดขาดหลายสาย ส่วนที่โรงเรียนชุมชนผานกเค้า ครูอนุญาตให้เด็กอนุบาลกลับบ้านได้ พร้อมช่วยกันขนย้ายอุปกรณ์การเรียนขึ้นไว้บนที่สูง เพราะเป็นจุดต่ำที่สุด อีกทั้งลำน้ำพอง อยู่ด้านหลังติดกับโรงเรียน ด้าน ปภ. ส่งข้อความเตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งริมแม่น้ำพอง […]