ฉะเชิงเทรา 24 มี.ค. – เกษตรกรรุ่นใหม่ผันตัวจากมนุษย์เงินเดือนทำงานสายสื่อสารมวลชน ไปรับช่วงต่อการปลูกมะพร้าวน้ำหอมจากแม่ พัฒนาการปลูกมะพร้าวแบบเชิงการค้า จนผลผลิตได้มาตรฐาน GAP เตรียมขยายตลาดส่งออกไปขายต่างประเทศ พร้อมต่อยอดเพาะต้นพันธุ์ขาย
ในพื้นที่ ต.คลองตลาด อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา ประชาชนกว่าร้อยละ 80 มีอาชีพเป็นเกษตรกร ทำไร่ ทำสวน โดยเฉพาะปลูกมะพร้าวน้ำหอมกันมากที่สุด ซึ่งรวมถึงครอบครัวของ วีรวุธ พรชัยสิทธิ์ เกษตรกรหนุ่มที่ผันตัวเองจากอาชีพสื่อสารมวลมายึดอาชีพปลูกมะพร้าวน้ำหอม โดยรับช่วงต่อจากแม่
สวนมะพร้าวน้ำหอมกว่า 3,000 ต้น เป็นมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์เตี้ย ข้อดีของสายพันธุ์นี้คือ มีผลดก กลายพันธุ์ยาก เนื้อมะพร้าวจะอ่อนนุ่ม น้ำมีรสหวาน กลิ่นหอม ที่สำคัญแม้อายุมาก ต้นก็จะไม่สูงเหมือนมะพร้าวน้ำหอมทั่วไป
วีรวุธแนะนำว่า การปลูกมะพร้าวน้ำหอมควรปลูกแบบยกร่อง เพราะมะพร้าวเป็นพืชชอบน้ำ ควรปลูกช่วงหน้าฝน พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกมะพร้าวได้ประมาณ 40 ต้น เว้นระยะห่างกัน 6×6 เมตร พออายุครบ 90 วัน ใส่ปุ๋ยขี้ไก่ เพื่อช่วยในการบำรุงดินปีละ 3 ครั้ง ไม่เกิน 3 ปี มะพร้าวจะเริ่มออกจั่น อายุ 4 ปี ก็มีลูกให้ตัดเก็บผลสดขาย มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงสวน ราคาลูกละ 15 บาท
นอกจากจะขายผลสดแล้ว ยังเพาะต้นพันธุ์ส่งขายด้วย ซึ่งสวนมะพร้าวแห่งนี้ยังได้มาตรฐาน GAP หรือการปฏบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอีกด้วย
ในอนาคตมะพร้าวน้ำหอมของตำบลคลองตลาด เตรียมส่งออกไปขายยังต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาการค้า นับเป็นโอกาสดีที่มะพร้าวน้ำหอมของไทยได้เปิดตลาดในต่างประเทศมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย