กทม.23มี.ค.- ตำรวจให้ความรู้ผู้เสียหายถึงขั้นตอนหลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน 22 คนพร้อมให้ชดใช้เงินผู้เสียหาย 2,541 คน
พลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ. 10 และพลตำรวจตรีอังกูร คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงกรณีศาลสั่งจำคุก 22 จำเลยคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน 12,255 ปี ยกฟ้อง 21 คน เพื่อให้ความรู้กับผู้เสียหายในคดีเกี่ยวกับขั้นตอนหลังศาลมีคำพิพากษา
พลตำรวจเอกสุวิระ กล่าวว่า คดีนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ทีมพนักงานสอบสวนเยียวยาผู้เสียหาย จากนี้มูลนิธิทนายความชาวบ้านจะเข้าไปช่วยเหลือ ขอให้ผู้เสียหาย 2,541 คนที่ยังไม่ได้มอบอำนาจให้มูลนิธิฯมอบอำนาจเพื่อเร่งดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน หากครบกำหนด 30 วันในวันที่ 22 เมษายนนี้แล้ว จำเลยยังไม่ชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหาย ทางมูลนิธิฯต้องยื่นคำร้องต่อศาล ให้ศาลมีคำสั่งบังคับคดีให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดทรัพย์จำเลยไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาให้ผู้เสียหาย ผู้ที่ลงบันทึกประจำวันไว้ขอให้เปลี่ยนไปแจ้งความร้องทุกข์แล้วนำเลขคดีให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาและส่งสำนวนฟ้องให้อัยการ ผู้ที่ยังไม่แจ้งความขอให้ไปแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุ
กรณีท้ายคำร้องซึ่งอัยการยื่นต่อศาลพิพากษา แม้ไม่สามารถแก้ไขจากการริบทรัพย์ 228 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เป็นคืนสู่ผู้เสียหาย สามารถใช้ช่องทางทางกฏหมายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 วงเล็บ 2 ที่ระบุว่า “เว้นแต่ทรัพย์สินเหล่านี้เป็นทรัพย์สินของผู้อื่นซึ่งมิได้ร่วมกระทำความผิด” ข้อความตามประมวลกฎหมายนี้จะทำให้ผู้เสียหายสามารถยื่นต่อศาลและกรมบังคับคดี เพื่อพิสูจน์ว่ามิได้มีส่วนรู้เห็นเป็นใจหรือเกี่ยวข้องกับคดีและขอทรัพย์สินเหล่านี้คืนได้
นอกจากนี้ การยื่นต่อศาลเพื่อขอทรัพย์สินคืนจากจำเลย สามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องรอให้สิ้นสุดคดีในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถคืนทรัพย์สินให้ได้เมื่อใด เพราะอยู่นอกอำนาจหน้าที่ แต่จากการคาดการณ์เบื้องต้นน่าจะสามารถคืนทรัพย์สินให้ผู้เสียหาย 2,541 คน ได้ทั้งหมดภายในปีนี้ .-สำนักข่าวไทย