ตามรอยคุณพระเศวตฯ ช้างเผือกชั้นเอก คู่บารมีรัชกาลที่ 9


กระบี่ 10 พ.ย.-ช้างเผือก ถือเป็นราชพาหนะคู่บุญบารมีของพระมหากษัตริย์ไทย และเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนาน ในบรรดาช้างเผือกคู่บารมีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีคุณพระเศวตฯ ช้างเผือกที่คล้องได้ที่ อ.ลำทับ จ.กระบี่ ซึ่งต่อมาได้รับการเลื่อนยศเป็นช้างเผือกชั้นเอก หรือช้างเผือกลำดับที่หนึ่ง
10-11-2559 21-37-24 10-11-2559 21-38-07

พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะทรงใช้พระหัตถ์จับงวงช้างเผือกคู่บารมีภาพนี้ ถูกบันทึกไว้เมื่อครั้งจัดพิธีสมโภชโรงช้างต้น เมื่อปี พ.ศ 2547 ณ วังไกลกังวล หัวหิน พระราชทานเลื่อนชั้นยศคุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ช้างเผือกคู่บารมี จากช้างเผือกโท สู่ช้างเผือกเอก ถือเป็นลำดับชั้นยศสูงสุด ในจำนวน 19 ช้างเผือกคู่บารมี


10-11-2559 21-38-18 10-11-2559 21-38-43 10-11-2559 21-38-35 10-11-2559 21-38-55

คุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ช้างเผือกคู่บารมี ในหลวงรัชกาลที่ 9 เกิดในป่าลำทับ จ.กระบี่ ควาญช้างคล้องได้เมื่อปี 2499 ในตอนนั้นมีอายุราว 6 ปี นายเสริม คงหวัง ควาญช้างผู้ดูแลให้ชื่อว่า พลายแก้ว ด้วยตรงตามคชลักษณ์ 7 ประการ คือ มีตาขาว เพดานขาว เล็บขาว ขนขาว พื้นหนังสีคล้ายหม้อใหม่ ขนหางขาว และอัณฑะโกศขาว เป็นช้างเผือกในตระกูลพรหมพงศ์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นช้างที่พระพรหมสร้าง ในปี 2501 พลายแก้วถูกถวายให้เป็นช้างเผือกคู่บารมี และได้รับการสมโภชขึ้นระวาง ณ โรงช้างพระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2502 ได้รับพระราชทานนามว่า “พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนวนาถบารมี ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาส บรมกมลาสนวิศุทธวงศ์ สรรพมงคลลักษณคเชนทรชาติ สยามราษฎรสวัสดิ์ประสิทธิ์ รัตนกุญชร นิมิตบุญญาธิการ ปรมินทรพิตรสารศักดิเลิศฟ้า”

10-11-2559 21-39-02 10-11-2559 21-39-1310-11-2559 21-39-38 10-11-2559 21-40-01


ตำนานของคุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ยังได้ถูกบอกเล่าผ่านทางนางกิจจา คงหวัง บุตรสาวของนายเสริม คงหวัง ควาญช้างที่ดูแลคุณพระเศวตฯ เมื่อครั้งยังเป็นพลายแก้วว่า คุณพระเศวตฯ เป็นช้างที่มีนิสัยเฉลียวฉลาด มีความจำดีเยี่ยม เห็นได้จากเมื่อครั้งที่ผู้เป็นพ่อเข้าไปเยี่ยมคุณพระเศวตฯ ที่วังไกลกังวล คุณพระเศวตเปล่งเสียงร้องลั่น น้ำตาไหล ทันทีที่ได้เจอผู้เป็นพ่อ แม้ว่าจะจากกันมาเป็นเวลานานแล้ว

10-11-2559 21-40-09 10-11-2559 21-40-19

ปัจจุบัน ความผูกพันระหว่างคุณพระเศวตรอดุลยเดชพาหนฯ ช้างเผือกคู่บารมีในหลวงรัชกาลที่ 9 กับชาว จ.กระบี่ ยังได้ถูกถ่ายทอดผ่านวิชาเรียนของโรงเรียนประชานุเคราะห์ลำทับ เพื่อให้เด็กรุ่นหลังได้เกิดความภาคภูมิใจในบ้านเกิด ที่เป็นต้นกำเนิดของช้างเผือกคู่บารมี อนาคต อ.ลำทับ ยังได้เตรียม จัดเป็นการท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์

10-11-2559 21-40-32 10-11-2559 21-40-48

คุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ล้มลง ณ วังไกลกังวล เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2553 รวมระยะเวลาการถวายงานแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นเวลารวม 52 ปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย