กกต.สรุปผลดูงาน ญี่ปุ่น-เกาหลี นำมาปรับการเลือกตั้งในไทย

กรุงเทพฯ 21 มี.ค.-กกต.สรุปผลดูงาน ญี่ปุ่น-เกาหลี นำมาปรับการเลือกตั้งในไทย “สมชัย” ชี้ได้คอนเนคชั่นมหาศาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 มี.ค.) เวลา 13.00 น. ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นักศึกษาหลักสูตรการบริหารงานสำรับผู้บริหารระดับสูง (กบส.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำเสนอการศึกษาดูงานต่างประเทศ (ญี่ปุ่น,เกาหลี) โดยมีข้อสรุปว่า การศึกษาดูงานประเทศญี่ปุ่นได้ประโยชน์ที่นำมาใช้เป็นแนวคิดปรับปรุงการเลือกตั้งในประเทศไทยรวม 5 เรื่อง คือ 1.เรื่องเวลา และเทคโนโลยี ที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นสามารถกำหนดเวลาเลือกตั้งให้มีระยะเวลาที่นานกว่าประเทศไทย โดยเริ่ม 07.00 น.- 20.00 น. 2.ความเป็นธรรมในการหาเสียงขณะเลือกตั้ง ซึ่งจะมีการกำหนดป้ายหาเสียงและจำนวนรถหาเสียงแต่ละพรรคเท่ากัน ไม่ให้มีพรรคใดได้เปรียบ 3.การขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีการตรวจสอบเรื่องการโยกย้าย หรือการเสียชีวิตของผู้มีสิทธิ ทำให้มีการปรับปรุงทะเบียนให้เป็นปัจจุบันตลอดเวลา 4.เครื่องนับคะแนนของประเทศญี่ปุ่มมีการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาใช้ และได้รับการเชื่อถือ ทำให้มีการนับคะแนนอย่างรวดเร็ว และ 5.การวางเงินประกันในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งจะได้ทั้งการเมืองที่มีคุณภาพและมีความตั้งใจอย่างแท้จริง ซึ่งผู้สมัครจะต้องได้คะแนนตามเกณฑ์ หากไม่ถึงเกณฑ์จะถูกยึดเงินประกันดังกล่าว

ส่วนการศึกษาดูงานประเทศเกาหลีได้ประโยชน์ที่นำมาใช้เป็นแนวคิดปรับปรุงการเลือกตั้งในประเทศไทยรวม 6 เรื่อง คือ 1.การใช้นวัตกรรม มีการคิดค้นเครื่องมือที่ใช้ลงคะแนนและเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในการเลือกตั้ง 2.การส่งเสริมการเมืองภาคพลเมือง ประเทศเกาหลีทำจริงจัง มีการสร้างเป็นสถาบัน และได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลแต่ละปี หากนำรูปแบบนี้มาพัฒนาสถาบันพัฒนาการเมืองที่มีอยู่ ก็จะเป็นโมเดลที่สามารถผลักดันได้ 3.การลงโทษการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่รุนแรง ซึ่งเป็นมาตรการที่จริงจัง มีกฎหมายและการบังคับใช้จริงจัง จนสามารถแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงได้อย่างเด็ดขาด 4.ปัญหาการจัดการเลือกตั้งของคนไทยในต่างประเทศ โดยมีแนวคิดว่ากระบวนการนับคะแนน ควรนับย่อยที่หน่วยเลือกตั้งได้เลย แล้วส่งผลคะแนนไปยังสถานทูตไทย เพื่อความรวดเร็วในการนับคะแนน 5.การประท้วงควรมีการจำกัดขอบเขต มีกำหนดเวลาที่ชัดเจน มีการขออนุญาต รวมทั้งจะต้องไม่ให้มีการกระทบสิทธิของประชาชนทั่วไป และ 6.การอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย สามารถกากบาทในบัตรเลือกตั้งที่บ้านหรือโรงพยาบาล แล้วใส่ซองปิดผนึก ลงชื่อกำกับ และส่งมาที่หน่วยเลือกตั้ง


โดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวว่า สิ่งที่ประเทศเกาหลีทำ ทั้งการทำงานของสมาคมองค์กรจัดการเลือกตั้งโลก (AWEB) หรือสถาบันการให้การศึกษาด้านการเมือง (KOCEI) คือการพยายามเป็นผู้นำและการเป็นพี่ใหญ่ในการเลือกตั้ง ทั้งในระดับภูมิภาคเอเชีย และระดับโลก ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดจากการดูงานครั้งนี้ คือ การได้คอนเนคชั่นมหาศาล เพราะจากการหารือทาง AWEB นั้น พร้อมที่จะให้ความสนับสนุน หากประเทศไทยมีการเลือกตั้งและมีการร้องขอการใช้เครื่องลงคะแนน AWEB ก็พร้อมที่จะให้ยืม นอกจากนี้ หาก กกต.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปรับการอบรมเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ทาง AWEB พร้อมสนับสนุนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งแม้จะไม่ได้มีการลงนาม แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จับหมอดังฟอกเงิน

ออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”

ตำรวจออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คนข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดจับได้แล้ว 6 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า “หมอดัง” หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า