ชัวร์ก่อนแชร์ : แฉเว็บปลอม ตอนที่ 2 ผ่าเว็บปลอม

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท 16 ก.ค. – เว็บปลอมข่าวเท็จยังคงแพร่ระบาดสร้างความตื่นตระหนกไปทั่ว ถึงเวลาเจาะลึกถอดรหัสหาเจตนาเบื้องหลังคนสร้างเว็บปลอมเหล่านี้

เราพบราว 30-40 เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข่าวปลอมป่วนสังคม พวกเขาทำแล้วได้อะไร ?

 


“ไม่ทราบเหมือนกัน เมื่อก่อนมีพวกเพจที่เป็นคลิกเบต พยายามเอาข่าวมาเขียนข่าวให้มีสีสัน แล้วล่อให้เราคลิกเข้าไป และมีโฆษณาเต็มไปหมด ก็จะได้เงินค่าโฆษณา แต่พอปรับใหม่เป็นแบบนี้ ไม่มีโฆษณาก็ไม่มั่นใจว่าทำเพื่ออะไร แต่มันเกิดผลไม่ดีต่อสังคมแน่ ๆ”

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ตั้งข้อสังเกตอย่างสงสัย เหตุใดเว็บไซต์ข่าวปลอมที่เกิดขึ้นจึงมีหน้าตาที่ไม่เหมือนกับเว็บระดมโฆษณาอื่น ๆ ที่เคยเห็น


ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท พบว่าข่าวปลอมที่เกิดขึ้นกว่า 60 ข่าวในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา (ดูรายชื่อข่าวทั้งหมดได้ที่ ชัวร์ก่อนแชร์ : แฉเว็บปลอม ตอนที่ 1) ส่วนใหญ่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 และมีลักษณะวิธีการสร้างหน้าเว็บที่คล้ายคลึงกัน และเชื่อได้ว่ามีการคิดวางแผนการเผยแพร่อย่างเป็นระบบ

ฟิชชิ่ง Phishing

เว็บไซต์ปลอม หรือที่เรียกกันว่า เว็บฟิชชิ่ง ที่ถูกสร้างขึ้นมากมายทั่วโลกนั้น มีเป้าหมายแตกต่างกันไป บางเว็บก็สร้างขึ้นเพื่อหลอกเอารหัสผ่านของอีเมล์ หรือ บัญชีธนาคาร ขณะที่บางเว็บก็ต้องการทำลายชื่อเสียงของหน่วยงาน

แต่ในกรณีเว็บข่าวปลอมเหล่านี้ มีหลักฐานชี้ที่ทำให้เชื่อได้ว่า เป้าหมายหลักของพวกเขาอยู่ที่ “ค่าโฆษณา”


ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยทางสารสนเทศ ระบุว่า เนื่องจากคนไทยในโซเชียลส่วนใหญ่จะมีลักษณะชอบแชร์เรื่องต่าง ๆ บางเรื่องตัดสินใจแชร์เพียงแค่ได้เห็นพาดหัวเท่านั้น ไม่ได้ดูลึกลงไปถึงเนื้อหาจริง

“พอเห็นเรื่องน่าตื่นเต้นตกใจ ก็จะรีบกดแชร์ช่วยแพร่กระจายเว็บเหล่านี้ออกไป ซึ่งคาดว่าน่าจะทำเงินให้ผู้อยู่เบื้องหลังแต่ละเดือนเป็นหลักหมื่นหรือแสนบาท” นายปริญญากล่าว

แกะรอยเว็บปลอม

เมื่อลองนำหัวข้อข่าวปลอมสักหัวหนึ่งไปค้นใน Google ผลการค้นหาบางรายการก็จะลิงก์ไปที่เว็บรวมข่าวต่าง ๆ แต่บางรายการจะชี้ตรงไปยังเว็บปลอม

“เข้าเว็บพวกนี้ต้องระวัง” นักพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายคนหนึ่งเตือน ขณะที่ผมขอให้เขาช่วยวิเคราะห์เว็บปลอม

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า บางทีเว็บพวกนี้ฝังซอฟต์แวร์บางอย่างที่พร้อมจะโจมตีเราได้ทันที เพียงแค่กดเข้าเว็บไซต์เท่านั้น เขาพูดพลางเปิดโปรแกรมประเภท Virtual Machine ที่ช่วยจำลองคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ให้อยู่ในคอมพิวเตอร์อีกที

แล้วเข้าเว็บไซต์ปลอมเหล่านี้ผ่านจอเล็กที่อยู่ในจอใหญ่ เพราะหากโดนโจมตีขึ้นมาจริง ๆ ก็จะโดนแค่เจ้าเครื่องจำลองนั้น

(คำเตือนนี้ทำเอาผมผวา ขนาดคนที่คร่ำหวอดกับภัยไซเบอร์ยังป้องกันตัวเองขนาดนี้ แต่ก่อนหน้านี้ ผมเที่ยวตระเวนเข้าเว็บปลอมเป็นสิบ ๆ แห่ง โดยไม่ทันได้ป้องกันอะไรเลย!)

เมื่อคลิกเข้าไปในเว็บปลอม เราจะพบหน้าเว็บที่สร้างขึ้นมาให้เข้าใจว่านั่นคือเว็บจริง ๆ ของสำนักข่าวหรือหน่วยงาน เรียกว่า capture หน้าเว็บจริงมาวาง แล้วปรับแก้เล็กน้อยเท่านั้น แม้แต่แบนเนอร์โฆษณาแบรนด์ดัง ๆ ก็เอามาทำหน้าที่เสริมความน่าเชื่อถือเท่านั้น

แถบเมนูต่าง ๆ ของหน้าเว็บต้นฉบับก็เอามาด้วย แต่คลิกไม่ได้

ตรงกลางหน้าเว็บ พาดหัวข่าวเท็จขนาดใหญ่ ตามด้วยรูปภาพประกอบที่น่าตกใจ และมีเนื้อข่าวที่ปั้นขึ้นมาเป็นตุเป็นตะ

แฉเว็บปลอม 2

แกะ code เว็บปลอม

ผมเปิดรหัสโปรแกรมหรือโค้ดเบื้องหลังของหน้าเว็บปลอมเหล่านี้ ด้วยคำสั่ง view source ซึ่งเป็นคำสั่งพื้นฐานที่มากับบราวเซอร์ทุกตัว เพื่อจะดูว่า นอกจากสิ่งที่เราเห็นด้วยตาผ่านหน้าเว็บแล้ว ผู้สร้างยังแอบซ่อนอะไรไว้อีกบ้าง

* ไฟล์ HTML

เว็บไซต์เหล่านี้ใช้เทคนิค HTML พื้นฐานในการเขียนหน้าเว็บ แค่ประกอบร่างตัวอักษรกับภาพถ่ายเท่านั้น

* จัดเก็บแยกเดี่ยว

หน้าเว็บถูกจัดเก็บสร้างเป็นไฟล์ htm แยกเป็นข่าว ๆ ไม่เชื่อมโยงถึงกัน และวางอยู่โดด ๆ ไม่มีลิงก์เชื่อมโยงไปที่อื่น ซึ่งแปลว่าถ้าหากไม่ใช่การค้นหาผ่าน Google แล้ว คนทั่วไปแทบจะไม่มีโอกาสรู้ว่า มีหน้าเว็บนี้อยู่

* ส่วนประกอบในหน้าเว็บ

องค์ประกอบต่าง ๆ ในหน้าเว็บ มีเพียงเนื้อข่าวเป็นข้อความ นอกนั้นเป็นไฟล์ภาพที่ถูกจัดวางต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นเมนู แบนเนอร์โฆษณาต่าง ๆ โดยภาพเหล่านั้นจัดเก็บอยู่ในโฟลเดอร์เดียวกันกับหน้าเว็บแต่ละเว็บไป

ทั้งนี้ ไม่มีโฆษณาและเมนูใดที่คลิกได้ ทุกอย่างจัดวางเป็นเหมือนฉากละครเวที คือสร้างบรรยากาศให้ แต่ใช้งานไม่ได้จริง

* สิ่งที่ซ่อนไว้

ในช่วงท้ายของหน้าเว็บปลอม จะซ่อนตัวเก็บสถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์ แต่ละหน้าจะมีรหัสที่แตกต่างกัน เพื่อทำให้ผู้สร้างเว็บรู้ได้ว่า ในขณะนี้แต่ละหน้า มีคนเข้าเว็บกี่คน ซึ่งบริการเก็บสถิติเว็บไซต์นี้สามารถรายงานผลให้ทราบได้โดยละเอียด

ขณะที่ตอนท้ายของโค้ด พบรหัสโปรแกรมที่สั่งการเรียกลิงก์โฆษณาผ่านคำสั่ง iframe แบบซ่อนตัว ซึ่งจะไปแอบอยู่แถว ๆ บนสุดของหน้าเว็บ ถ้าเราไม่สังเกตแหวกหาก็จะไม่เห็นได้ง่าย ๆ

ระบบโฆษณาหมกเม็ด

ความจริงแล้ว เมื่อเทียบโค้ดของเว็บไซต์ข่าวปลอม ในช่วงแรก ๆ ไม่พบว่ามีการใส่โฆษณาเข้าไป แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผู้สร้างเริ่มแอบใส่โฆษณาเข้าไปแล้ว

โฆษณาที่แอบใส่ในข่าวปลอมปัจจุบัน เป็นแบบ Pop-Under หรือเปิดซ้อนด้านหลัง และยังใช้เทคนิค iframe ให้มีการเปิดหน้าเว็บซ่อน และเว็บโฆษณาขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

กลไกการทำงาน ขั้นแรกหน้าเว็บหลักจะตรวจสอบก่อนว่าผู้ชมเข้าเว็บไซต์ด้วยอุปกรณ์อะไร หากเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ก็จะส่งหน้าเว็บที่ไม่มีโฆษณามาแสดงผล

แต่ถ้าคลิกเข้าด้วยมือถือ ระบบจะคัดแยกว่าเป็น iOS หรือ Android แล้วจึงส่งหน้าเว็บที่เขียนขึ้นสำหรับมือถือโดยเฉพาะเข้ามา ซึ่งรหัสเบื้องหลังหน้าเว็บนั้น สั่งให้มีการแสดงโฆษณาทันที

เปรียบเทียบเหมือนว่า เพียงเราเข้าไปที่เว็บนั้น ก็เหมือนเรากดคลิกโฆษณา สร้างรายได้ให้เขาทันที หลายคนที่เคยโดนหลอกให้คลิกเข้าไป

เข้าใจแล้วใช่ไหมว่า ทำไมจู่ ๆ จึงมีโฆษณาเว็บอนาจารพรึ่บขึ้นมาบนหน้าจอมากมาย

เจตนาแฝง ?

ตรงนี้ชี้เจตนาชัดว่า คนสร้างเว็บปลอมเหล่านี้ พุ่งเป้าไปที่ประชาชนที่ใช้มือถือเป็นหลัก และในระยะหลังเราพบว่า เจาะจงเลือกเล่นงานแต่มือถือ แอนดรอยด์ โดยตัวเว็บจะตรวจสอบว่าถ้าคลิกเข้าด้วยมือถือแอนดรอยด์ มันจะส่งหน้าเว็บเฉพาะที่มีรหัสสำหรับเรียกโฆษณามากมายมาให้เอง

ไม่อยากจะคิดว่า การที่ผู้สร้างเลือกแบ่งเป้าหมายแบบนี้ กำลังจะเตรียมตัวใช้เว็บปลอมเพื่อ “ปล่อย” อะไรที่ไปไกลกว่าโฆษณาหรือไม่ ?

ไม่อยากจะนึกภาพ หากมีข่าวปลอมที่น่าตื่นตระหนกสักข่าวถูกสร้างขึ้นมาล่อ แล้วคนไทยแห่คลิกเข้าไป ปรากฏว่ากลายเป็นกับดัก แพร่มัลแวร์ หรือ แรนซัมแวร์ (ไวรัสเรียกค่าไถ่) แล้วทำให้ผู้ใช้มากมาย ตกเป็นเหยื่อ

สืบสาวให้ลึก

เบาะแสที่เราได้จากการแกะรอยดูหน้าเว็บมีประมาณนี้ หลังจากนี้เราจะต้องใช้เครื่องมืออื่นในการเจาะลึกลงไปอีกขั้น เพื่อตามให้ถึงคนที่ดำเนินการเบื้องหลัง

เมื่อต้องการรู้เจ้าของเว็บไซต์ หรือ สถานที่เก็บเว็บไซต์ โดยทั่วไปเราจะใช้คำสั่ง WHOIS เพื่อดึงข้อมูลการจดทะเบียนและเส้นทางจราจรเว็บไซต์ขึ้นมา

แต่เมื่อใช้เครื่องมือในการเข้าดูต้นตอเว็บไซต์ ผมไม่พบอะไรนอกจากทางตัน ซึ่งแปลว่าวิธีแกะรอยมาตรฐานแบบนี้ใช้กับเว็บปลอมเหล่านี้ไม่ได้!

ผมไล่ตรวจเว็บปลอมเกือบ 40 แห่ง พบการปกปิดในลักษณะเดียวกันนี้ทั้งหมด!

เว็บปลอมเหล่านี้ลงทุนซื้อบริการที่ช่วยปกปิดชื่อเจ้าของเว็บ ทำให้เมื่อค้นด้วยคำสั่ง WHOIS จึงพบแต่ชื่อของบริษัทรับจ้างปกปิดตัวตนนี้ ซึ่งจดแจ้งสถานที่ตั้งอยู่แถวประเทศปานามา

ปิดบังในชั้นแรกยังไม่พอ ผู้สร้างเว็บยังลงทุนจ่ายเงินใช้บริการระบบคลาวด์ที่ช่วยปกปิดสถานที่เก็บเว็บไซต์จริง ซึ่งบริการนี้มีเว็บไซต์ใหญ่ ๆ ใช้บริการ แต่ขณะเดียวกันก็ได้รับความนิยมจากพวกกลุ่มก่อการร้าย ใช้สำหรับปกปิดเส้นทางชี้โยงมาถึงตัวผู้จัดทำ

ในต่างประเทศถึงขั้นมีการเคลื่อนไหวต่อต้านประณามบริษัทคลาวด์ Startup รายนี้ ที่เปิดบริการซึ่งกลายเป็นเครื่องมือช่วยปกปิดตัวตนให้พวกผู้ร้ายทั้งหลาย

ผลจากทางที่ดูเหมือนตันทั้ง 2 แห่ง ทำให้เรายังไม่สามารถรู้ได้ว่า “ใคร” คือคนที่อยู่เบื้องหลังเว็บปลอมเหล่านี้…

…แต่เรายังเหลืออีกพื้นที่กลไกหนึ่งที่น่าสนใจ…

(โปรดติดตามต่อตอนที่ 3 – ชัวร์ก่อนแชร์ : แฉเว็บปลอม ตอนที่ 3 – ขบวนการขายความเท็จ)

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย