กรุงเทพฯ 11 พ.ย.-กทม.ตรวจความแข็งแรงโป๊ะและท่าเทียบเรือ คุมเข้มมาตรการความปลอดภัยช่วงลอยกระทง พร้อมประสานกรมเจ้าท่ากำชับเรือเอกชน ป้องกันเหตุคนพลัดตกเสียชีวิตซ้ำรอยอีก
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยกองทัพเรือ กองบัญชาการตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจโป๊ะและท่าเทียบเรือ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งในระหว่างล่องเรือ ได้มีการโชว์ศักยภาพเรือดับเพลิงที่พร้อมใช้งานช่วยเหลือประชาชนระงับเหตุอัคคีภัย ที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดช่วงเทศกาลลอยกระทงวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้
ผู้ว่าฯกทม.กล่าวภายหลังลงพื้นที่ว่า เบื้องต้นทุกโป๊ะที่เปิดให้บริการมีความแข็งแรงได้มาตรฐาน โดยกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเชือก อุปกรณ์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเฝ้าระวังโป๊ะแต่ละจุด ห้ามไม่ให้มีจำนวนประชาชนลงไปเกินจำนวนที่โป๊ะกำหนด ซึ่งควรอยู่ในจำนวนร้อยละ75 ที่โป๊ะกำหนด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ส่วนกรณีเหตุมีคนพลัดตกเรือโดยสารเสียชีวิตวานนี้ ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ประสานเรือด่วนเจ้าพระยา เรือของภาคเอกชนตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ช่วยกันระมัดระวัง มีการปิดกั้นท้ายเรือ ขึ้น-ลงควรจอดให้สนิท ทั้งนี้ได้ประสานกรมเจ้าท่าหน่วยงานหลักตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก
ขณะนี้กรุงเทพมหานครมีโป๊ะเรืออยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและลำคลองทั้งหมด 436 แห่ง ปิดปรับปรุงซ่อมแซม และงดใช้งาน 70แห่งซึ่งอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา 37 แห่ง และในลำคลอง33แห่งจะไม่เปิดให้ประชาชนใช้บริการ ขณะเดียวกันได้เปิดสวนสาธารณะ 30แห่งทั่วกรุงเทพฯ ให้ประชาชนได้มาร่วมลอยกระทง และจัดกิจกรรมลอยกระทง”1 สายน้ำ 2 วัฒนธรรม ไทย-จีน”บริเวณคลองโองอ่างโดยจะมีพิธีการถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมลอยกระทงเพื่อถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งกรุงเพมหานครจะงดการจัดกิจกรรมรื่นเริ่ง แต่จะเปิดให้ประชาชนร่วมลอยกระทง เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมไทย ส่วนการจุดพลุดอกไม้ไฟในปีนี้กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือ ห้ามจำหน่ายและงดจุดพลุดอกไม้ไฟ หากพบผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทย