พระนครศรีอยุธยา 26 ธ.ค.- รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นำทีมชุดพญาเสือเจาะเลือดช้างอายัดของวังช้างอยุธยาเป็นไปด้วยดี เพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอเทียบสายพันธุ์พ่อแม่ เผยสองฝ่ายพูดคุยกันต่างเข้าใจในเหตุผล
นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ พร้อมเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายและสัตวแพทย์ลงพื้นที่วังช้างอยุธยาแลเพนียด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมช้าง 2 เชือก คือ พลายเกาะพญาเพ็ชร อายุ 8 ปี และพลายทีจี อายุ 4 ปี หลังจากชุดพญาเสือได้ตรวจสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นพบข้อสงสัยในตั๋วรูปพรรณช้าง จึงอายัดช้างทั้ง 2 เชือกไว้ก่อน ระหว่างนั้นเจ้าของช้างได้เคลื่อนย้ายช้างสองเชือกมาไว้ที่วังช้างอยุธยาฯ
ทั้งนี้ ชุดเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับนายลายทองเหรียญ มีพันธ์ ประธานมูลนิธิพระคชบาล และตัวแทนชาวช้าง ก่อนตรวจเลือดเก็บดีเอ็นเอของช้างทั้งสอง เชือกละ 10 ซีซี เพื่อเปรียบเทียบดีเอ็นเอกับช้างพ่อแม่ โดยจะส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจในห้องปฏิบัติการทั้งของกรมอุทยานฯ ของมหาวิทยาลัยมหิดล และของเอกชน ส่วนช้าง 2 เชือกที่ถูกอายัดนั้น ได้ให้วังช้างอยุธยาแลเพนียดดูแลต่อไป และห้ามเคลื่อนย้ายไปที่อื่น
นายลายทองเหรียญ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นไปด้วยดี ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผล ดังนั้น เพื่อให้ทุกอย่างถูกต้องและสิ่งที่พิสูจน์ได้ดีที่สุดคือ กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ และการตรวจสอบด้านเอกสาร เมื่อทั้งสองฝ่ายได้มาพูดคุยกันก็ยุติลงได้
ด้านนางร่มทองทราย มีพันธ์ เจ้าของวังช้างอยุธยาฯ ยังคงยืนยันในความถูกต้องทั้งในด้านสายเลือดของช้างที่สามารถสืบหาว่าเชือกใดเป็นพ่อแม่หรือเป็นพี่น้องกันจากการตรวจหาดีเอ็นเอ พร้อมให้ตรวจสอบด้วยกระบวนการที่เป็นธรรมและโปร่งใส อย่างไรก็ตาม อยากให้กรมอุทยานฯ และกรมการปกครองหารือกันในระดับกรมและกระทรวงก่อน เพื่อความชัดเจนในการปฏิบัติหน้าที่และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขอย้ำว่าไม่มีการนำช้างป่ามาสวมเป็นช้างบ้านอย่างแน่นอน อีกทั้งวังช้างอยุธยาฯ ได้ขยายพันธุ์ช้างและมีลูกช้างเกิดใหม่หลายเชือก
ส่วนนายอดิศร กล่าวว่า ผลตรวจดีเอ็นเอต้องใช้เวลา เพราะจะส่งเลือดไปตรวจถึง 3 แล็ป เพื่อให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรม โดยการเจาะเลือดหาดีเอ็นเอเพื่อหาความเชื่อมโยงของความเป็นพ่อแม่ลูกพี่น้องของช้างเป้าหมาย หากเชื่อมโยงกันจริงก็เป็นช้างบ้าน แต่หากตรวจสอบแล้วไม่เชื่อมโยง ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งได้ชี้แจงให้เข้าใจแล้ว และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่หาร่วมมือด้วยดี
ขณะที่นายชัยวัฒน์ อธิบายว่า การอายัดช้างระหว่างการตรวจสอบไม่ได้หมายความว่ายึดช้างมาเป็นของหลวงในทันที แต่เป็นการอายัดเพื่อป้องกันนำช้างหลบหนีไปจากเจ้าหน้าที่ โดยครั้งนี้ก็ยังอายัดช้าง 2 เชือกต่อไป โดยอนุโลมให้มาดูแลที่วังช้างอยุธยาและห้ามเคลื่อนย้าย เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ ส่วนตั๋วรูปพรรณช้างที่ออกโดยกรมการปกครองเป็นเอกสารที่เชื่อถือได้อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย