ชลบุรี 26 ธ.ค.-เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ “เต่าดาว” สัตว์หายากในสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ จ.ชลบุรี หายไปอย่างไร้ร่องรอย ขณะที่รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คาดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นการสร้างสถานการณ์
หลังเต่าหายากที่สุดในโลก อย่างยูนิฟอรา และเต่าดาวรัศมี จากประเทศมาดากัสการ์ ที่เลี้ยงในสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ จ.ชลบุรี กว่า 78 ตัว มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท หายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อเดือนมิถุนายนและคดียังไม่คืบหน้า
ผ่านมา 6 เดือน เหตุกลับเกิดซ้ำ กล้องวงจรปิดจับภาพชายปริศนา 2 คนสวมหมวกปิดบังใบหน้า ถุงมือ เข้ามาขโมยเต่าดาวอินเดีย 62 ตัว และเต่าดาวรัศมี 3 ตัว มูลค่ารวมกว่า 150,000 บาทไปจากสถานี เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา รองอธิบดีกรมอุทยานฯ หน่วยงานหลักที่ดูแล สันนิษฐานอาจมีคนในเกี่ยวข้อง เพราะรอบนี้เตรียมตัวมาดี
ด้วยความโดดเด่นที่กระดองสวยเหมือนแฉกดาว เต่าดาวจึงเป็นที่นิยมในกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์แปลกหายาก โดยปัจจุบันเต่าดาวรัศมีถูกจัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากถูกล่าอย่างหนักราคาตลาดตัวละ 20,000 บาท ส่วนเต่าดาวอินเดียพบได้ทั่วไปราคาถูกเพียง 1,000-2,000 บาท
ด้วยราคาที่ไม่สูงมากนักหากเทียบกับเต่ายูนิฟอรา ซึ่งเป็นเป้าสำคัญของโจร เนื่องจากราคาสูงถึง 1-2 ล้านบาท และยังเหลืออยู่ในสถานีอีก 1 ตัวกลับไม่ถูกขโมย คาดรอบนี้อาจเป็นมือใหม่ที่ไม่รู้ราคา หรือไม่ก็ต้องการเบี่ยงประเด็นจากคดีเดิมที่เพิ่งสรุปผลส่งอธิบดีกรมอุทยานฯ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยพยายามให้เชื่อว่าเป็นโจรคนละกลุ่ม เกิดในช่วงหัวหน้าสถานีผู้รับผิดชอบคนละคนกัน แม้รอบแรกที่เกิดเหตุจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้ม ทั้ง รปภ. ติดตั้งไฟฟ้า กล้องวงจรปิด และลงทะเบียนคนเข้าออก แต่ไม่เป็นผล รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุควรทบทวนเป้าหมายการเก็บสัตว์ของสถานีควรเป็นสถานที่ปิดไม่ใช่สาธารณะอีกต่อไป
สถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ จ.ชลบุรี เป็นจุดดูแลสัตว์ของกลางหายาก สำหรับคนทั่วไปที่นี่เปรียบเหมือนสวนสัตว์แหล่งศึกษาหาความรู้ ขณะที่ชนิด ประเภท และจำนวนที่มีอยู่ มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่รู้ โดยล่าสุด คดีขโมยเต่าดาวทั้ง 2 ครั้ง ยังคงอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนหาความจริง.-สำนักข่าวไทย