ศาลอุทธรณ์แก้จากยกฟ้องเป็นจำคุกพิจิตต อดีตผู้ว่าฯ กทม.

กทม.27 ธ.ค.- ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้จากยกฟ้องเป็นจำคุก 5 ปี พิจิตต อดีตผู้ว่าฯ กทม. กับอดีตเลขาฯ ทุจริตจัดซื้อที่จอดรถของ กทม. เมื่อปี 38-40 ส่วนอดีต ผอ.เขตบางซื่อ ลดโทษคุกเหลือ 7 ปี ก่อนศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างฎีกา


ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่อัยการยื่นฟ้องนายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯ กทม., นายประเสริฐ สมะลาภา อดีตปลัด กทม. พร้อมพวกรวม 8 คน เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตฯ, ร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สินสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ และร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
กรณีพวกจำเลยใช้อำนาจหน้าที่ให้กรุงเทพมหานคร จัดซื้อที่ดินใช้เป็นที่จอดรถขยะ รถน้ำ และรถอื่นๆ ของ กทม. ย่านบางซื่อ ในราคา 270 ล้านบาท ซึ่งแพงเกินจริงเป็นเงินกว่า 36 ล้านบาท และรับค่านายหน้าขายที่ดินเป็นเงิน 18 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2538 ถึง 16 กันยายน 2540

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายสมคาด สืบตระกูล อดีตเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. 8 ปี จำคุกนายชวน พัฒนวรานนท์ อดีตผู้อำนวยการเขตบางซื่อ 10 ปี ส่วนนายพิจิตต กับจำเลยที่เหลือ ศาลยกฟ้อง


วันนี้ (27 ธ.ค.) นายพิจิตต พร้อมนายสมคาด และนายชวน มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีพยานหลักฐานชี้ชัดว่านายชวน ซึ่งเป็น ผอ.เขตบางซื่อ ในขนะนั้น หลังได้รับค่านายหน้าจัดซื้อที่ดินจำนวน 18 ล้านบาท ได้ซื้อแคชเชียร์เช็คจำนวน 3 ล้านบาท ให้กับนายสมคาด ที่เหลืออีก 15 ล้านบาท ได้เบิกถอนเป็นเงินสดออกมาจากบัญชี ในส่วนนี้ศาลเห็นพ้องกับคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่กรณีนี้ศาลปกครองสูงสุดมีความเห็นแล้วว่าไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับกรุงเทพมหานคร เห็นว่าโทษจำคุกนายสมคาดและนายชวนหนักเกินไป จึงพิพากษาแก้โทษจำคุกนายสมคาดเหลือ 5 ปี จำคุกนายชวน 7 ปี ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินฯ และฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 ส่วนนายพิจิตต ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบชี้ว่าเป็นผู้อนุมัติการจัดซื้อที่ดิน และภายหลังได้มีทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 10 ล้านบาท โดยไม่ได้ฝากบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นเงินที่เชื่อได้ว่ารับมาจากจำเลย โดยไม่สามารถนำสืบหักล้างโจทก์ถึงที่มาของเงินจำนวนดังกล่าวได้ ศาลจึงเห็นว่านายพิจิตต มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินฯ และเป็นเจ้าพนักงานละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 พิพากษาจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ส่วนจำเลยอื่นๆ ยืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง

ทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวนายพิจิตต, นายสมคาด และนายชวน ระหว่างฎีกา

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างฎีกา โดยศาลตีราคาประกันนายพิจิตต และนายสมคาด เป็นหลักทรัพย์มูลค่า 8 แสนบาท และตีราคาประกันนายชวน เป็นหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท โดยภายหลังศาลอนุญาตให้ประกันตัว นายพิจิตต ได้เดินทางออกจากศาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเล็กน้อยก่อนขึ้นรถกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

สีฐานเฟสติวัล สุดยอดเทศกาลลอยกระทง จ.ขอนแก่น

บรรยากาศงานลอยกระทง จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะภายในบึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น คึกคัก มีประชาชนเดินทางมาร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง

“ยี่เป็งเชียงใหม่” คึกคัก นักท่องเที่ยวแน่น

บรรยากาศริมฝั่งลำน้ำปิง บริเวณหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ คึกคักไปด้วยชาวเชียงใหม่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ที่มาลอยกระทงกันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว คู่รัก หรือบางคนฉายเดี่ยว และยังเน้นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก

คึกคัก ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณฯ

เริ่มแล้ว งานลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณราชวราราม ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมคึกคัก มีการแสดงและกิจกรรมต่างๆ มากมาย

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน