ลำปาง 12 พ.ย. – แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พิสูจน์มาแล้วมากมายว่าสามารถพลิกชีวิตได้ ลุงอ้วน ปราชญ์การเกษตรระดับประเทศที่ จ.ลำปาง แม้จะจบเพียงชั้น ป.4 แต่ยึดหลักพอเพียงตามรอยเท้าพ่อ สามารถทำเกษตรพื้นที่ 1 ไร่ เลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย แม้ในวันที่เผชิญวิกฤติจนแทบไม่เหลืออะไร แนวทางของพ่อก็พยุงชีวิตลุงอ้วนไว้ได้
เสียงเคาะกระป๋องที่ดังขึ้นเป็นระยะ เรียกให้ปลาดุกหลายพันตัวที่ลุงสมโภชน์ ปานถม หรือลุงอ้วน เลี้ยงไว้ในสระให้มากินอาหาร ปลาเหล่านี้จะเป็นรายได้ส่วนหนึ่งของสวนพื้นที่ 4 ไร่ ในบ้านหนองมะแปบ ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง แบ่งพื้นที่ปลูกไม้ผลและพืชผักนานาชนิด ทั้งกล้วย มะละกอ กะเพรา โหระพา เรียกว่าเหลือกินก็ขายได้ทุกอย่าง ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานไว้
โดยเฉพาะการปลูกกุ้ยช่าย ที่ลุงอ้วนใช้พื้นที่เพียง 1 ไร่ ปลูกกุ้ยช่ายเขียวขายกิโลกรัมละ 30 บาท สลับแปลงกับการทำกุยช่ายขาว โดยใช้กระถางครอบไว้ ขายได้ถึงกิโลกรัมละ 120 บาท เก็บขายได้ทุกวัน วันละกว่า 700 บาท หรือเดือนละกว่า 20,000 บาท
กุยช่ายขาวของลุงอ้วนเพียง 1 ไร่ จะสร้างรายได้ราว 10 เดือน หรือเกือบ 200,000 บาท จากนั้นจะพักดินปลูกอย่างอื่น แต่ไม่ต้องห่วง เพราะในสวนยังมีรายได้จากไม้ผลอย่างกล้วย มะละกอ และพืชผักอีกมากมาย ไม่รวมปลาและกบที่เลี้ยงไว้ จับขายได้ทุกวัน เลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ก็ไม่ง่าย โดยเฉพาะในปี 2554 ที่ถูกน้ำท่วมใหญ่ สวนผักลุงอ้วนถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด เหลือแค่มะม่วง 2 ต้น และไผ่อีก 5 กอ แทบหมดตัว จนท้อแท้กับชีวิต กระทั่งได้ยินพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ผ่านวิทยุเกี่ยวกับความพอเพียง ทำให้ลุงอ้วนลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง
มาถึงทุกวันนี้ ลุงอ้วนแม้จะจบเพียง ป.4 แต่ด้วยความขยันหมั่นเพียร ใฝ่รู้ ลงมือทำ ยึดหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ และความพอเพียงตามรอยพ่อของแผ่นดิน ทำให้ลุงอ้วนกลายเป็นปราชญ์ด้านการเกษตรของลำปาง และของประเทศ จนได้รับเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่น สาขาการพัฒนาที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในวันพืชมงคลเมื่อปีที่แล้ว ลุงอ้วนเปิดสวนให้เป็นศูนย์เรียนรู้ มีผู้คนมากมายจากทั่วประเทศเข้ามาศึกษาเรียนรู้ทำการเกษตร เป็นสิ่งที่ลงอ้วนภูมิใจที่สุดที่ได้มีส่วนเผยแพร่แนวทางพระราชดำริจากพ่อของแผ่นดิน. – สำนักข่าวไทย