fbpx

ครม.สั่งสรรพากรฟ้องศาลฯ หาก “ทักษิณ” ไม่จ่ายภาษีหุ้นชินฯ

ทำเนียบรัฐบาล  14 มี.ค. – พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลประชุมร่วมกันระหว่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการสูงสุด กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เมื่อวานนี้ (13 มี.ค.) เห็นชอบร่วมกันให้ตั้งคณะกรรมการประเมินภาษีเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  เนื่องจากการออกหมายเรียกนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร  ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นหมายเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ เนื่องจากศาลตัดสินแล้วว่าบุตรทั้ง  2 เป็นเพียงตัวกลาง ดังนั้น การออกหมายเรียกจึงเกิดขึ้นแล้ว เมื่อทำการประเมินภาษีแล้ว การนับอายุความการเรียกเก็บในเวลา 10 ปี สิ้นสุดลงทันที


เมื่อตั้งคณะกรรมการประเมินภาษีแล้วจากนี้ไปเหลือเพียงขั้นตอนรอดูว่านายทักษิณจะยอมเสียภาษีหรือไม่ หากไม่มาเสียภาษีตามกำหนดได้สั่งการให้กรมสรรพากรดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลในขั้นต่อไป แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตอบหนังสือกลับมาแล้วว่าการซื้อขายหุ้นใน ตลท.ได้รับการยกเว้นภาษี แต่การซื้อขายเปลี่ยนมือแบบ Big Lot 3-4 ขั้นตอน จากนายทักษิณ ขายไปยังบริษัท แอมเพิลรีช และจากบริษัท แอมเพิลรีช ขายให้นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ราคา 1 บาทต่อหุ้น และเพียงระยะเวลาไม่นานได้ขายหุ้นให้กับเทมาเส็คราคา 49 บาทต่อหุ้นในปี 2549 มีกำไรต้องประเมินเสียภาษีในปี 2550 ราคา 48 บาท จากความซับซ้อนดังกล่าวที่ประชุมหน่วยงานด้านกฎหมายมองว่ามีพฤติกรรมอำพรางควรได้รับการยกเว้นภาษีหรือไม่ จึงต้องส่งเรื่องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน

รัฐบาลจึงไม่ต้องถูกมองว่ามีการเกี้ยเซี้ยะทางการเมืองในการเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ กรณีขายหุ้นชินคอร์ปให้กับเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ เมื่อปี 2549 คิดเป็นมูลค่า 16,000 ล้านบาท เนื่องจากนายกรัฐมนตรีย้ำชัดเจนว่าจะไม่ใช้มาตรา 44 เพราะจะไม่ใช้พร่ำเพรื่อและไม่ให้กระทบต่อหลักการจัดเก็บภาษีทั่วไป และให้


ให้ยึดหลักนิติธรรมให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด  ดังนั้น  ขั้นตอนอีก 16 วันที่เหลือจึงดำเนินการได้ในส่วนที่รัฐบาลดำเนินการ ที่เหลือต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว