ครม.สั่งสรรพากรฟ้องศาลฯ หาก “ทักษิณ” ไม่จ่ายภาษีหุ้นชินฯ

ทำเนียบรัฐบาล  14 มี.ค. – พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลประชุมร่วมกันระหว่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการสูงสุด กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เมื่อวานนี้ (13 มี.ค.) เห็นชอบร่วมกันให้ตั้งคณะกรรมการประเมินภาษีเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  เนื่องจากการออกหมายเรียกนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร  ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นหมายเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ เนื่องจากศาลตัดสินแล้วว่าบุตรทั้ง  2 เป็นเพียงตัวกลาง ดังนั้น การออกหมายเรียกจึงเกิดขึ้นแล้ว เมื่อทำการประเมินภาษีแล้ว การนับอายุความการเรียกเก็บในเวลา 10 ปี สิ้นสุดลงทันที


เมื่อตั้งคณะกรรมการประเมินภาษีแล้วจากนี้ไปเหลือเพียงขั้นตอนรอดูว่านายทักษิณจะยอมเสียภาษีหรือไม่ หากไม่มาเสียภาษีตามกำหนดได้สั่งการให้กรมสรรพากรดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลในขั้นต่อไป แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตอบหนังสือกลับมาแล้วว่าการซื้อขายหุ้นใน ตลท.ได้รับการยกเว้นภาษี แต่การซื้อขายเปลี่ยนมือแบบ Big Lot 3-4 ขั้นตอน จากนายทักษิณ ขายไปยังบริษัท แอมเพิลรีช และจากบริษัท แอมเพิลรีช ขายให้นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ราคา 1 บาทต่อหุ้น และเพียงระยะเวลาไม่นานได้ขายหุ้นให้กับเทมาเส็คราคา 49 บาทต่อหุ้นในปี 2549 มีกำไรต้องประเมินเสียภาษีในปี 2550 ราคา 48 บาท จากความซับซ้อนดังกล่าวที่ประชุมหน่วยงานด้านกฎหมายมองว่ามีพฤติกรรมอำพรางควรได้รับการยกเว้นภาษีหรือไม่ จึงต้องส่งเรื่องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน

รัฐบาลจึงไม่ต้องถูกมองว่ามีการเกี้ยเซี้ยะทางการเมืองในการเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ กรณีขายหุ้นชินคอร์ปให้กับเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ เมื่อปี 2549 คิดเป็นมูลค่า 16,000 ล้านบาท เนื่องจากนายกรัฐมนตรีย้ำชัดเจนว่าจะไม่ใช้มาตรา 44 เพราะจะไม่ใช้พร่ำเพรื่อและไม่ให้กระทบต่อหลักการจัดเก็บภาษีทั่วไป และให้


ให้ยึดหลักนิติธรรมให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด  ดังนั้น  ขั้นตอนอีก 16 วันที่เหลือจึงดำเนินการได้ในส่วนที่รัฐบาลดำเนินการ ที่เหลือต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่-กทม.ฟ้าคะนอง 10%

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 10% ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ

สอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการไชน่า เรลเวย์ฯ ปฏิเสธทุกข้อหา

ดีเอสไอสอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อหา อ้างเป็นผู้แทนรัฐวิสาหกิจจีนมาลงทุนในไทย ถูกส่งมาบริหารบริษัทในไทยเท่านั้น

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัว กินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง