กรุงเทพฯ 14 มี.ค. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะเจ้าหน้าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) นําโดยนางแอนนา กอร์บาโช ( Ms. Ana Corbacho ) เดินทางมาประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยประจำปี 2560 ระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ถึง 1 มีนาคม 2560 โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะสั้นถึงระยะกลาง โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่เพิ่มขึ้น มีบทบาทหลักระยะ 2-3 ถึงปีข้างหน้า ซึ่งจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนระยะต่อไป แต่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยระยะข้างหน้ายังเผชิญกับความไม่แน่นอน โดยเฉพาะปัจจัยต่างประเทศ คือ การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย การเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการไหลออกของเงินทุนและทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นรวมทั้งเกิดความผันผวนในตลาดการเงินโลกมากขึ้น
นอกจากนี้ นโยบายกีดกันทางการค้าอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในระยะปานกลาง แต่แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวได้ดียังเป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออก และการท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวเร็วขึ้น ส่วนปัจจัยเสี่ยง คือ การลงทุนภาคเอกชนที่ยังอยู่ในระดับต่ำอาจส่งผลต่ออุปสงค์ในประเทศและศักยภาพของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานและหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงเป็นอุปสรรคต่อการบริโภคและการเติบโตของเศรษฐกิจมากกว่าที่คาด ดังนั้น ควรใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนควบคู่กับการปรับปรุงการสื่อสาร เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่กรอบเป้าหมายจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการส่งผ่านนโยบายการเงิน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟแนะนําให้ไทยดําเนินนโยบายเศรษฐกิจที่ผสมผสานทั้งนโยบายการคลังและนโยบายการเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดการเกินดุลของดุลบัญชีเดินสะพัดระยะปานกลาง และจะช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนปรับแข็งค่าขึ้นผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้ที่แท้จริง โดยการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนควรเป็นปราการด่านแรกที่จะช่วยรองรับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก ซึ่งทางการสามารถเข้าดูแลได้ในกรณีจำเป็นที่เกิดความผันผวนที่ผิดปกติในตลาด รวมทั้งเห็นว่าไทยควรปฏิรูปโครงสร้างเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและทั่วถึงและให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุ. พัฒนาคุณภาพการศึกษา เพิ่มผลิตภาพ ของแรงงานฝีมือและลดผลกระทบจากปัญหาโครงสร้าง.-สำนักข่าวไทย