อาเซียนนำระบบทรัพย์สินทางปัญญาดันธุรกิจสู่ตลาดโลก

รร.ดิเอทัส 15 มี.ค. – รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์เผยวิสัยทัศน์ก้าวต่อไป  หลังครบรอบ 50 ปีอาเซียน  มุ่งพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญา  เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจขับเคลื่อนประเทศสู่นวัตกรรมด้วยวิสัยทัศน์ 20 ปี


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดการสัมมนา “50 ปีอาเซียนกับการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ”  โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาอาเซียน และได้เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ด้านทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในและต่างประเทศมาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับผู้ประกอบการ เพื่อปรับกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจการค้าในเชิงรุก พร้อมบุกตลาดต่างประเทศ โดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเข้าใจถึงแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ภายใต้บริบทการปฏิรูประบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้สอดรับกับนโยบายการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ไทยแลนด์ 4.0

อย่างไรก็ตาม อาเซียนเป็นตลาดที่มีศักยภาพและขยายตัวต่อเนื่อง ความต้องการที่จะนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภครวมทั้งการลงทุนจากประเทศต่าง ๆ นั้นยังมีอยู่อีกมากการดำเนินธุรกิจในตลาดอาเซียน โดยตลาดอาเซียนถือเป็นตลาดหลักของไทย  ปีที่ผ่านมาสามารถส่งออกมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 25 ของมูลค่าการส่งออกโดยรวม และยังมีแนวโน้นที่จะเติบโตในตลาดเหล่านี้อีกมาก ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจะต้องเร่งปรับตัวแม้ว่าจะส่งออกในตลาดอาเซียนได้มากขึ้นและอย่าไปหวังตลาดสหรัฐและยุโรปมากเกินไป และเห็นว่าอย่าเน้นการส่งออกอย่างเดียว โดยจะต้องเน้นทั้งการเข้าไปลงทุนและการเสริมสร้างเป็นพันธมิตรด้านการค้าในกลุ่มอาเซียนมากขึ้น


ทั้งนี้ ทรัพย์สินทางปัญญาถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทยในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้บริบทของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยเฉพาะการยื่นจดเครื่องหมายการค้าที่ผู้ประกอบการไทยจะละเลยไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันการยื่นขอจดเครื่องหมายการค้าในภายกรอบอาเซียนจะใช้เวลา 9-16 เดือน เนื่องจากมีขั้นตอนในการตรวจเช็คข้อมูลว่าเครื่องหมายการค้าซ้ำซ้อนกันหรือไม่  จึงต้องใช้เวลานาน  แต่เพื่อให้มาตรฐานการยื่นจดเครื่องหมายการค้าในกลุ่มอาเซียนที่จะใช้มาตรฐานเดียวกัน ไทยอยู่ระหว่างปรับลดขั้นตอนจาก 9-12 เดือนให้เหลือเพียง 9 เดือนได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งประเทศในอาเซียนตรวจสอบเครื่องหมายการค้าโดยใช้เวลาเพียง 9 เดือน คือ ประเทศสิงคโปร์

นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านทรัพย์สินทางปัญญาอาเซียน 2016-2025 (ASEAN IPR Action Plan 2016-2025) ประกอบด้วย 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1.พัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศสมาชิกอาเซียน โดยการ เพิ่มประสิทธิภาพของสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของแต่ละประเทศ และโครงสร้างพื้นฐานด้านทรัพย์สินทางปัญญาระดับภูมิภาค  2.พัฒนาระบบและเครือข่ายทรัพย์สินทางปัญญาของภูมิภาคอาเซียนให้สนับสนุน AEC 3.พัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของอาเซียนให้ครอบคลุมในวงกว้างและ 4.สร้างสินทรัพย์โดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือโดยเฉพาะสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และภูมิปัญญาท้องถิ่น

ทั้งนี้  ที่ผ่านมาอาเซียนมีการจัดตั้งคณะทำงานความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาอาเซียน หรือ ASEAN Working Group on Intellectual Property Cooperation หรือ AWGIPC เป็นเวทีการประชุมหารือระหว่างระดับอธิบดี  สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาอาเซียน พบกันปีละ 2-3 ครั้ง โดยความสำเร็จของการดำเนินงานของ AWGIPC ที่ผ่านมา เช่น จัดทำโครงการ ASPEC หรือโครงการแลกเปลี่ยนผลการตรวจสอบสิทธิบัตรของอาเซียน โครงการจัดทำฐานข้อมูลเครื่องหมายการค้าของอาเซียนเพื่อประโยชน์ ในการสืบค้นเครื่องหมายการค้า ที่มีการจดทะเบียนไว้ในประเทศสมาชิกอาเซียน และการผลักดันให้สมาชิกอาเซียนเข้าเป็นภาคี     ความตกลงระหว่างประเทศขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก เช่น พิธีสารมาดริด เพื่ออำนวยความสะดวกการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น


​นอกจากนี้ การพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้มีประสิทธิภาพถือเป็นวาระที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญา หรือ คทป. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อกำหนดนโยบายและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาด้านต่าง ๆ ซึ่ง คปท.เห็นชอบแผนที่นำทาง (Roadmap) ด้านทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศไทย ระยะ 20 ปี    เพื่อปฏิรูประบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้สอดรับกับนโยบายการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ไทยแลนด์ 4.0 ที่เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและปัญญา ประกอบด้วย 6 ด้าน คือ 1.การสร้างสรรค์ (Creation) 2. การคุ้มครอง (Protection) 3.การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ (Commercialization) 4.การบังคับใช้กฎหมาย (Enforcement) 5.การสนับสนุนทรัพย์สินทางปัญญาของชุมชนและประเทศด้านสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI 6.เรื่องทรัพยากรพันธุกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการแสดงออกทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม ซึ่งการดำเนินงานทั้ง 6 ด้านของไทยก็สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของ ASEAN  ด้านทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับปี 2016-2025 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

“คะน้า” แจ้งความเอาผิดไฮโซเก๊ หลอกจ่ายค่าแชมเปญ

“คะน้า” ดาราสาว แจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีกับอดีตแฟนหนุ่ม ข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญ 98,000 บาท เพื่อเป็นของขวัญ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C