ตั้งศูนย์รวมเครื่องจักรกลช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้

กรุงเทพฯ  8 ม.ค. – กรมชลประทานตั้งศูนย์รวมเครื่องจักรกล พร้อมช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องจักรเครื่องมือชุดแรกถึงภาคใต้แล้ว เดินหน้าเร่งระบายน้ำท่วมขัง ขณะเดียวกันเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่คาดว่าปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง 10 มกราคมนี้


นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งระดมเครื่องจักรเครื่องมือหนักจากส่วนกลางและพื้นที่อื่น ๆ ลงสู่พื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมตามข้อสั่งการของพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้จัดส่งเครื่องจักรไปไว้ที่โครงการประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือ และช่วงเย็นวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาได้จัดส่งเครื่องจักรเพิ่มจากที่มีอยู่เดิม อาทิ รถเทรลเลอร์ ขนาด 55 ตัน จำนวน 3 คัน รถกระเช้าไฟฟ้า รถสูบน้ำเคลื่อนที่ 8 คัน แต่ละคันติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง สามารถช่วยสูบน้ำได้เครื่องละ 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระยะแรกกรมชลประทานจะใช้เครื่องจักรเครื่องมือดังกล่าวเปิดช่องทางระบายน้ำออกจากพื้นที่ ติดตั้งเครื่องผลักดันและเครื่องสูบเพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้  ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง จากการติดตามข้อมูลจากสำนักงานชลประทานที่ 15 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี ตรัง กระบี่ ภูเก็ต ได้รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ว่าสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองกะทูน คลองดินแดง และคลองเสม็ดจวน และห้วยน้ำใส จังหวัดนครศรีธรรมราช มีแนวโน้มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลง ส่วนสภาพน้ำในอ่างเก็บบางทรายนวลและคลองสวนหนัง จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีแนวโน้มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำจะสูงขึ้น


อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำและสถานการณ์ฝนบริเวณภาคใต้อย่างใกล้ชิดล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ฝั่งตะวันตก เคลื่อนตัวทางทิศเหนืออย่างช้า ๆ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าอ่าวมะตะบันและประเทศเมียนมาร์วันที่  10 มกราคมนี้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ปริมาณฝนที่ตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก สำหรับกรมชลประทานจะติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและจะเร่งหาแนวทางเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเพิ่มเติมว่า  สำหรับเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดแรกที่กรมชลประทานส่งลงไปช่วยเหลือระบายน้ำท่วมตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ นั้น ขณะนี้เดินทางถึงจุดที่เกิดน้ำท่วมในจังหวัดต่าง ๆ แล้ว ได้แก่ นราธิวาส สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี  โดยเริ่มนำเครื่องจักรกลงานหนักเข้าไปดำเนินการเปิดทางน้ำ พร้อมกับติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมชลประทานเตรียมจัดส่งเครื่องจักร เครื่องมือและกำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งลงไปเสริมการช่วยเหลือระบายน้ำเพิ่มจากชุดแรกที่ได้จัดส่งไปแล้ว โดยจะออกเดินทางภายในวันนี้ (8 ม.ค.) เพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมง

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท