“สมคิด” เร่งเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

รร.เซ็นทารา ลาดพร้าว  11  ม.ค. – สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จัดสัมมนาใหญ่ ประจำปี 2559  นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ “จุดเปลี่ยนประเทศไทย”  ว่า  โครงสร้างเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนไปมาก ทั้งเทคโนโลยี การผลิต การตลาด การบริโภค  ขณะที่โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยยังเป็นแบบเดิม เมื่อรัฐบาล คสช.ยังบริหารดูแลเศรษฐกิจของประเทศ มองว่าจีดีพีจะขยับในรูปสัญญลักษ์ ไนกี้  ไม่ใช่ตัว L เหมือนที่หลายฝ่ายมอง  และเมื่อปรับความสมดุลทุกด้านผ่านนโยบายไทยแลนด์ 4.0 หลังจากเร่งออกฎหมายหลายฉบับ การวางโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม  การสร้างผู้ประกอบการใหม่ ดูแลภาคเกษตรให้ครบวงจร นายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนทีมเศรษฐกิจอย่างเต็มที่


“ช่วง 2560 เริ่มมีความเชื่อมั่น เมฆหมอกแห่งความไม่แน่นอนเริ่มหายไป ต่างชาติเริ่มมองเข้ามายังไทย เพื่อขยายการลงุทน  หลังจากการเดินสายโรดโชว์ในต่างประเทศที่ผ่านมาจึงทำให้เงินลงทุนโดยตรงเริ่มเข้ามาแล้ว บวกกับการฟื้นตัวของการลงทุน  หลังรัฐบาลเตรียมขยายเวลามาตรการอุดหนุนการลงทุน การท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี  การบริโภคสินค้าเกษตรเริ่มดีขึ้น ดังนั้น ปี 2560 จึงเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลเริ่มเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศจีดีพีจะขยับขึ้นมากกว่าตัวไนกี้ จากแรงขับเคลื่อนจีดีพีหลายด้าน” นายสมคิด กล่าว

ทั้งนี้  ยอมรับว่าพื้นฐานเศรษฐกิจเปลี่ยนไปมาก แม้แต่ซื้อสินค้าจากตลาดสดยังสั่งผ่านร้าน V-shave ส่งตรงถึงบ้าน  การเรียนการสอนได้เปลี่ยนไปมากผ่านอินเทอร์เน็ตครูผู้เชี่ยวชาญสอนได้ทั่วประเทศผ่านอินเทอร์เน็ต ดังนั้น สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงพลิกประเทศได้รัฐบาลจึงต้องเริ่มขับเคลื่อนปัจจัยต่าง ๆ ประกอบด้วย  1.การเร่งรัดลงทุนอินเทอร์เน็ตบอร์ดแบรนด์ ด้วยเงินลงทุน 15,000 ล้านบาท โดยต้องลงทุนอย่างรวดเร็ว เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพื่อให้ประเทศปรับทิศทางประเทศ เนื่องจากโครงข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ต้องลงทุนให้เสร็จรองรับทั้งการศึกษา ค้าขาย เชื่อมโยงข้อมูลทุกด้าน เพราะโครงข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นปัจจัยสำคัญของทุกด้าน


2.การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อดึงการลงทุนทุกด้านมารวมอยู่ในที่เดียวกัน  มีมาตรการจูงใจการลงทุนอย่างพร้อมเพียงนอกจากมาตรการทางภาษี  การตั้งโรงเรียนผลิตบุคลากรรองรับภาคอุตสหากรรม  การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกของเอกชนทุกด้าน  ครม.ได้เห็นชอบตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง  และเดินหน้าเร่งรัดโครงสร้างพื้นฐานลงทุนรถไฟรางคู่  เพื่อเน้นการส่งสินค่าผ่านระบบราง

3.การสนับสนุนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  (ธ.ก.ส.)  ธนาคารออมสิน และแบงก์รัฐ ร่วมสร้างสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เพื่อสร้างผู้ประกอบการภาคเกษตร  การทำนาแปลงใหญ่ การสอนให้ขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต  การขนสินค้าส่งตลาดโดยตรง  สอนชาวบ้านปรับปรุงแพ็กเก็จ ขายสินค้า  ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมผ่านการให้สินเชื่อและให้ความรู้กับภาคเกษตร  4. การจัดสรรงบประมาณ เนื่องจากที่ผ่านมามีการจัดสรรงบประมาณตามกลุ่มการเมือง ผลักดันออกไปพื้นที่จึงทำได้ยาก งบส่วนใหญ่อยู่ในส่วนกลาง ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วการจัดสรรงบประมาณต้องมาจากความต้องการของพื้นที่ต่างจังหวัด รัฐบาลจึงต้องปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณ  พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เริ่มนำร่องด้วยการใช้เงิน 100,000 ล้านบาท ผ่านงบกลางปี เพื่อจัดสรรงบประมาณผ่านกลุ่มจังหวัด เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัด วางแผนพัฒนาท้องถิ่นตามลักษณะกลุ่มจังหวัดจะทำให้การใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพ เมื่อวางพื้นฐานผ่าน 4 ปัจจัยดังกล่าว จีดีพีของประเทศจะขยายตัวร้อยละ 3-4 มองเป็นเรื่องธรรมดา เพราะจะเติบโตได้มากกว่านั้น เชื่อมั่นว่าจะปรับเปลี่ยนประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]