กสิกรไทยคาดเศษฐกิจไทยปี 60 โตร้อยละ 3.3 จับตานโยบายสหรัฐ

กรุงเทพฯ 14 พ.ย. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเศรษฐกิจไทยปี2560 ขยายตัวร้อยละ 3.3 การส่งออกจะกลับมาเป็นบวกร้อยละ 0.8  จับตาผลกระทบนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อการค้าโลก


นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2560 ในงานสัมนาของสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2560  ขยายตัวร้อยละ 3.3 ใกล้เคียงกับปีนี้ที่ขยายตัวร้อยละ 3.3 เช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 8.5 ในปีหน้า จากปีนี้ขยายตัวร้อยละ 11.5  และการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะโตร้อยละ 4.9 ในปีหน้า จากปีนี้ขยายตัวร้อยละ 8.6  แม้ว่าการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐ และ การท่องเที่ยวจะขยายตัวชะลอลง แต่การส่งออกในปี 2560 จะกลับมาบวก ขยายตัวร้อยละ 0.8 จากปีนี้ที่หดตัวร้อยละ 0.5 เป็นผลมาจากปัจจัยด้านราคาที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ราคาจะสูงขึ้น  แม้ปริมาณการส่งออกจะขยายตัวได้ไม่มากนัก ขณะที่ปัจจัยด้านการเมืองในประเทศมีความชัดเจนมากขึ้นตามโรดแม็ปของรัฐบาลท่ีจะส่งผลดีต่อการลงทุนภาคเอกชนที่จะขยายตัวดีขึ้นร้อยละ 2.8 ในปีหน้า จากปีนี้ที่เติบโตเพียงร้อยละ 1.3

ส่วนอัตราเงินเฟ้อในปี 2560 คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 1.8 จากร้อยละ 1.3 ในปีนี้ รวมถึงระดับหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงอยู่ที่รัอยละ 81-82 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ( จีดีพี )ยังกดดันการบริโภค ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ยังปรับตัวลดลง โดยเฉพาะข้าว ทำให้กำลังซื้อของเกษตกรลดลงด้วย ด้านดอกเบี้ยนโยบายของไทย เชื่อว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 1.50 ให้นานที่สุดเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หากเงินเฟ้อไม่ได้เร่งตัวขึ้นมาก กนง.อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2561 แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด ) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้ 1 ครั้ง และ ปรับขึ้น 2 ครั้งในปี 2560 ขณะที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอยู่ที่ 36-36.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากปลายปีนี้อยู่ที่ 35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ


ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ยังต้องติดตามนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยเฉพาะด้านการค้า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างสหรัฐ กับจีน จะตึงเครียดมากขึ้น แต่ไม่น่าจะเกิดข้อพิพาทรุนแรง ปัจจัยดังกล่าวทำให้การค้าโลกเผชิญข้อจำกัดมากขึ้น นอกจากนี้จากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์  มีนโยบายจะยกเลิกการค้าเสรี และความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียและแปซิฟิก หรือ ทีพีพี จะกระทบกับ ญี่ปุ่น เวียดนาม และจะมีผลทำให้ภาคเอกชน และ นักลงทุนที่เคยใช้ประเทศเอเชียเป็นฐานการผลิตสินค้าส่งไปยังสหรัฐชะลอการลงทุน เพื่อรอความชัดเจนเรื่องการเจรจาทีพีพี ดังนั้นรัฐบาลและเอกชนทั่วโลก ต้องปรับนโยบายการค้าการลงทุนกับสหรัฐ ให้สอดคล้องกับนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์  ที่เน้นการลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา

ส่วนนโยบายการลดภาษีนิติบุคคล จะทำให้สหรัฐขาดดุลงบประมาณมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด) อาจจะน้อยกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่า ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐอาจจะลดลง นอกจากนี้ต้องติดตามว่าการทำงานระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กับธนาคารกลางสหรัฐ ว่าจะราบรื่น หรือ จะมีปัญหา   ซึ่งอาจจะมีผลต่อการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด

ขับรถชนคน

คนร้ายขับรถชนกลุ่มคนในตลาดคริสต์มาสเยอรมนี ดับ 2 ราย

คนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าชนกลุ่มคนจำนวนมากที่จับจ่ายซื้อของและเที่ยวชมตลาดคริสต์มาสในเยอรมนีในช่วงเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น