14 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารอากาศ แสดงความเสียใจกับเหตุเครื่องบินกริพเพนตก ขณะที่จะมีการเคลื่อนศพนักบินมายังท่าอากาศยานทหาร 2 ดอนเมือง ก่อนส่งให้กับครอบครัวไปประกอบพิธีทางศาสนา ในบ่ายวันพรุ่งนี้
พล.ท.วีรชน สุคนธปฎิภาค รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจกับนักบิน ครอบครัว และกองทัพอากาศ พร้อมขอให้การปฏิบัติทางทหารของทุกหน่วย เพิ่มความระมัดระวังระดับสูงสุด และให้ผู้บัญชาการแต่ละพื้นที่ตัดสินใจ เรื่องการแสดงให้ปลอดภัยทุกกรณี สำหรับอุบัติเหตครั้งนี้รัฐบาลจะให้กระทรวงกลาโหมดูแลผู้สูญเสียอย่างเต็มที่
ด้าน พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า จากเหตุดังกล่าว พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ แสดงความเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น และสั่งการให้คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุ และหน่วยเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ สอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบบันทึกทางการบินของเครื่องกริพเพนลำดังกล่าว อย่างไรก็ตามการบินครั้งนี้ ไม่ใช่การบินผาดแผลง เป็นท่าบินปกติ ไม่ได้มีความยาก หรือเสี่ยงอันตราย ดังนั้นจะต้องสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดของอุบัติเหตุครั้งนี้
โดยพรุ่งนี้ (15 ม.ค.) เวลา 13.00 น. ผู้บัญชาการทหารอากาศจะเป็นประธานในการรับศพ นาวาอากาศตรี ดิลกฤทธิ์ ปัถวี ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 ดอนเมือง แล้วจะเคลื่อนศพไปโรงพยาบาลภูมิพล และในวันที่ 16 มกราคม จะประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
สำหรับนาวาอากาศตรีดิลกฤทธิ์ ปัถวี หรือผู้พันแอร์ ตำแหน่งนักบินประจำหมวดบิน 3 ฝ่ายยุทธการ ฝูงบิน 701 กองบิน 7 เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 43 นักเรียนนายเรืออากาศ รุ่นที่ 50 มีชั่วโมงการบินมากกว่า 1,000 ชั่วโมง เคยบินเครื่องเอฟ 16 จนได้รับการคัดเลือกให้มาบินกริพเพน ขณะนี้เป็นหัวหน้าหมู่บิน และกำลังฝึกเป็นครูการบิน ซึ่งสิทธิของข้าราชการทหารที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่นั้น นาวาอากาศตรี ดิลกฤทธิ์ ปัถวี จะได้รับการปูนบำเหน็จพิเศษไม่เกิน 5 ขั้น ได้รับพระราชทานยศ เป็น พล.อ.ท. พร้อมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และบำนาญพิเศษรายเดือน รวมเงินสงเคราะห์กว่า 2.6 ล้านบาท
สมรรถนะของเครื่องบินขับไล่แบบ JAS 39 Gripen (กริพเพน) ผลิต โดยบริษัท SAAB สัญชาติสวีเดน เป็นเครื่องบินที่ประจำการในกองทัพอากาศหลายประเทศ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2530 ขึ้นบินทดสอบครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2531 เข้าประจำการในกองทัพอากาศสวีเดนในปี 2540 ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีสมรรถนะโดดเด่น ทั้งยังมีระบบอาวุธอานุภาพร้ายแรง ทั้งจรวดนำวิถี, จรวดต่อต้านอากาศยาน และจรวดต่อต้านเรือผิวน้ำ โครงการจัดซื้อเครื่องบินรุ่นดังกล่าวของกองทัพอากาศดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2551 – 2558 เป็นกริพเพน ซี 8 ลำ และกริพเพน ดี อีก 4 ลำ ภายใต้งบประมาณกว่า 34,000 ล้านบาท. -สำนักข่าวไทย