กอร.รส.เตรียมปรับพื้นที่สนามหลวง งานพืชมงคล-พระเมรุมาศ

สนามหลวง 16 ม.ค.-กอร.รส.ประชุมเตรียมปรับพื้นที่ท้องสนามหลวง หลังครบ100วัน เพื่อการบริหารจัดการดูแลประชาชนที่เดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเป็นจำนวนมาก รวมทั้งเตรียมพื้นที่งานพระราชพิธีพืชมงคลฯและการสร้างพระเมรุมาศ


ภาพข่าวรองแม่ทัพภาคที่1กอรรส (2)

พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวภายหลังการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) ว่า ที่ประชุมได้หารือเตรียมความพร้อมในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบ หลังงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราช กุศลสตมวาร (100 วัน) รวมถึงการจัดเตรียมพื้นที่เพื่อประกอบพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และการสร้างพระเมรุมาศ


 

เบื้องต้นแบ่งการทำงานออกเป็น 3ระยะ คือ ระยะแรกเป็นการล้อมรั้วด้านทิศใต้ ระยะที่2 จะล้อมแนวเขตถึงถนนสายกลางและระยะที่3 จะล้อมแนวเขตผ่านแนวถนนสายกลาง ซึ่งอาจกระทบกับอาคารนิทรรศการ “เย็นศิระ เพราะพระบริบาล” ซึ่งจะมีการหารือในรายละเอียดต่อไป โดยมอบหมายให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) หารือถึงแนวทางการบริหารจัดการ ให้เป็นไปตามขั้นตอน คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

 


สำหรับการจัดเตรียมเต็นท์เพื่อให้บริการกับประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ 17กระทรวงเป็นผู้รับผิดชอบ ในการสนับสนุนการทำงาน โดย กทม.จะเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงาน รวมถึงการกำหนดแบ่งความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวงอย่างชัดเจน และในส่วนมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ทางหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงได้สนธิกำลัง ในการจัดชุดสายตรวจเพื่อกำกับดูแล และการบังคับใช้กฎหมาย อาทิ การจอดรถในที่ห้ามจอด การกักตุนอาหาร ซึ่งที่ผ่านมาได้นำผู้กระทำความผิดลงบันทึกประจำวัน และว่ากล่าวตักเตือน ตามความเหมาะสม

 

ขณะที่ปริมาณสถิติขยะในพื้นที่ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมถึงปัจจุบัน พบว่า มีลดลงถึงร้อยละ 50 ตั้งเป้าว่าจะลดขยะให้ได้ร้อยเปอร์เซนต์ในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าในพื้นที่ มีขยะย่อยสลายยากสูงถึง ร้อยละ 37 เช่นขวดน้ำพลาสติกที่มีจำนวนมากที่สุด จึงขอความร่วมมือประชาชน นำภาชนะบรรจุน้ำติดตัวมาด้วย หากเป็นไปได้ขอให้ประชาชนนำอาหารมาเอง เนื่องจากในแต่ละวันมีประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่อาจดูแลอำนวยความสะดวกไม่ทั่วถึง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง