กรุงเทพฯ 16 ม.ค.-ธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ สามารถขอพักชำระหนี้ได้นานสูงสุด 4-6 เดือน พร้อมช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและเจ้าของธุรกิจ ครอบคลุมทั้งลูกค้ารถยนต์ บ้าน ธุรกิจส่วนตัว หรือ ผู้ที่ขาดสภาพคล่อง
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ธนาคารธนชาตออกมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยฟื้นฟูความเป็นอยู่และกิจการภายหลังน้ำลดให้ลูกค้าของธนาคารสามารถ “ตั้งหลัก” และกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติโดยเร็ว โดยมาตรการที่ออกมาจะครอบคลุมลูกค้าทุกด้านทั้ง รถยนต์ บ้าน ธุรกิจ ตลอดจนกลุ่มที่ขาดสภาพคล่อง
ทั้งนี้ ลูกค้ากลุ่มที่มีรถยนต์และใช้บริการ สินเชื่อรถยนต์ กับธนาคารธนชาต และได้รับความเดือดร้อนขาดสภาพคล่อง สามารถขอพักชำระหนี้ได้นานสุงสุด 4 เดือน หรือ สามารถขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระเพื่อทำให้ค่างวดลดลงได้ ส่วนประชาชนทั่วไปที่มีรถยนต์เป็นของตัวเองแต่ต้องการเงินสดไปใช้จ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน สามารถนำรถยนต์มาใช้ บริการสินเชื่อรถแลกเงิน ได้ โดยจะมอบสิทธิพิเศษให้ คือรับเงินไปก่อน และเริ่มผ่อนงวดแรกในอีก 90 วัน.
ส่วนผู้ที่ทำประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจกับธนชาตประกันภัย และรถเสียหายจะได้รับ บริการรถยกฟรีไปที่อู่ พร้อมการประสานไปยังอู่รถยนต์และศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมให้สำหรับผู้ที่ทำประกันภัยรถ ประเภท 1, One Lite Plus, One Lite, Super Lite, 2 บวกจัดเต็มคุ้มครองน้ำท่วม,2 บวกคุ้มครองน้ำท่วม และ 2 บวกโกลด์คุ้มครองน้ำท่วม หากรถเสียหายสามารถเคลมประกันน้ำท่วมได้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ซึ่งขณะนี้ลูกค้าที่ทำประกันภัยรถยนต์กับธนชาตได้รับการดูแลช่วยเหลือครบแล้ว
ขณะที่ลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเคหะกับธนาคารธนชาต แม้บ้านไม่ได้รับความเสียหาย แต่ได้รับความเดือดร้อน สามารถขอพักชำระหนี้กับธนาคารได้นานสูงสุด 4 เดือน หรือขอปรับลดค่างวดได้นานสูงสุด 12 เดือน ส่วนผู้ที่ใช้ ประกันรักบ้านห่วงบ้าน กับธนชาตประกันภัยจะได้รับ ค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าที่พักชั่วคราวได้วันละสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และค่าใช้จ่ายสำหรับการขนย้ายซากทรัพย์สินที่เสียหาย สำหรับลูกค้าซึ่งใช้บริการ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อสารพัดนึก และได้รับความเดือดร้อนขาดสภาพคล่อง สามารถขอพักชำระหนี้กับธนาคารได้นานสูงสุด 4 เดือน โดยลูกค้าบัตรเครดิต ถ้าไม่ต้องการพักชำระหนี้กับธนาคารนานสูงสุด 4 เดือน สามารถเลือกปรับลดอัตราการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำจาก ร้อยละ 10 ให้เหลือร้อยละ 3 ได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560
ด้านเจ้าของธุรกิจที่ใช้บริการ สินเชื่อเอสเอ็มอีและได้รับผลกระทบ สามารถขอพักชำระหนี้ได้นานสูงสุด 4 เดือน หรือขอปรับลดค่างวดได้นานสูงสุด 12 เดือน ในส่วนของเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ที่ใช้บริการ สินเชื่อธุรกิจ และได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำท่วม หรือ ได้รับผลกระทบเนื่องจากคู่ค้าของตนเอง (Supply Chain) ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม สามารถขอพักชำระหนี้เงินต้น หรือ เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยได้ โดยธนาคารจะพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป-สำนักข่าวไทย