fbpx

ส.อ.ท. จับมือ นิด้า MOU สำรวจความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

กรุงเทพฯ 17 ม.ค.-ส.อ.ท. จับมือ นิด้า MOU สำรวจความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมประเดิมโพลแรก แถลง “ผลการสำรวจ CEO Survey ทิศทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมปี 2560


รศ.ดร.กำพล  ปัญญาโกเมศ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจผู้บริหารระดับสูงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2560 พบว่า ผู้บริหารระดับสูง ร้อยละ 34.69 ระบุว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2560 จะขยายตัว  ร้อยละ 48.98 ระบุว่า ทรงตัว และร้อยละ 16.33 ระบุว่า หดตัว โดยในจำนวนผู้ที่ระบุว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2560 โดย ร้อยละ 70.59 ระบุว่า จะขยายตัวร้อยละ 1– 5 ขณะที่ทิศทางแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรม ในปี 2560 พบว่าร้อยละ 30.61 ระบุว่าทิศทางแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรม ในปี 2560  จะขยายตัว ร้อยละ 46.94 คาดว่าจะทรงตัว และร้อยละ 22.45  ระบุว่า จะหดตัว

​สำหรับปัจจัยที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจไทยในปี 2560 พบว่า ผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 57.14 ระบุว่า ปัจจัยที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ปี 2560 คือ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม รองลงมา ร้อยละ 51.02 ระบุว่า เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐฯ ร้อยละ 38.78 ระบุว่า เป็นภาคการท่องเที่ยว


​ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงมีความกังวลในการดำเนินกิจการในช่วงปี 2560 พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.86 ระบุว่า เป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รองลงมา ร้อยละ 40.82 ระบุว่า เป็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุนโลกจากความไม่แน่นอนของนโยบายของสหรัฐฯ ภายหลังการเลือกตั้ง และกระบวนการในการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร รวมถึงกำลังซื้อภายในประเทศที่ยังฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 34.69 ระบุว่า เป็นความเข้มงวดของธนาคารในการให้สินเชื่อ

​​ส่วนการวางแผนของผู้บริหารระดับสูงในการดำเนินกิจการในช่วงปี 2560 พบว่า ผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่ ร้อยละ 91.84 ระบุว่ามีการวางแผน และมีแนวทางในการรับมือ ขณะที่ ร้อยละ 8.16 ระบุว่า ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแผนมากนักจากช่วงครึ่งหลังของปี 2559 โดยในจำนวนผู้ที่ระบุว่ามีการวางแผนและมีแนวทางในการรับมือนั้น ส่วนใหญ่ ร้อยละ 44.44 ระบุว่า มีการวางแผนโดยปรับปรุงเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต รองลงมา ร้อยละ 37.78 ระบุว่า เป็นการพัฒนาศักยภาพของแรงงาน ร้อยละ 28.89 ระบุว่า เป็นการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะของผู้บริหารระดับสูงเพื่อให้การลงทุนภาคเอกชนของไทยสามารถขยายตัวได้ดีและเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับเศรษฐกิจไทยต่อไป สามารถสรุปได้ ดังนี้ คือ 1.รัฐบาลควรพัฒนาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิต และก้าวเข้าสู่ Industries 4.0 2.หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ควรสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม 3.รัฐบาลควรเร่งพัฒนาวางระบบโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม​


โดยภาครัฐควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ รองลงมา ร้อยละ 48.98 ระบุว่า ภาครัฐควรเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ร้อยละ 40.82 ระบุว่า ภาครัฐควรสนับสนุนการขยายตลาดเข้าสู่หัวเมืองรองในกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อขยายฐานลูกค้าและกระจายสินค้าให้มากขึ้น

​ส่วนความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงต่อทิศทางภาวะเศรษฐกิจโลก ภายหลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี คนที่ 45 ของสหรัฐฯ พบว่า ผู้บริหาร ร้อยละ 22.45 ระบุว่า ทิศทางภาวะเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว ร้อยละ 40.82 ระบุว่า ทรงตัว ร้อยละ 26.53 ระบุว่า หดตัว ขณะที่ร้อยละ 10.20 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ  โดยความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงต่อนโยบายของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ภาคอุตสาหกรรมมีความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทย พบว่า ผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่ ร้อยละ 63.04 ระบุว่า เป็นนโยบายการกีดกันทางการค้าสำหรับสินค้านำเข้าจากจีน และเม็กซิโก ที่จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตและปริมาณการค้าโลก รองลงมา ร้อยละ 50.00 ระบุว่า เป็นการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีนเป็นร้อยละ 45 และดึงการลงทุนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ กลับไปผลิตในสหรัฐฯ

ส่วน​ผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย จากนโยบายเรื่องการค้าที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะกีดกันการค้าจากจีน พบว่า ร้อยละ 4.08 ระบุว่า น่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยมากที่สุด ร้อยละ 22.45 ระบุว่า ส่งผลมาก ร้อยละ 48.98 ระบุว่า ส่งผลปานกลาง ร้อยละ 18.37 ระบุว่า ส่งผลน้อย ร้อยละ 4.08 ระบุว่า ส่งผลน้อยที่สุด และร้อยละ 2.04 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

​นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การสำรวจความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรม” ระหว่าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กับ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โดยความร่วมมือในการสำรวจความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลการสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวได้สะท้อนมุมมองของผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมุมมองที่ได้รับความสนใจทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ของไทย รวมทั้งสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นในการดำเนินงาน วางแผน หรือปรับตัวให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจได้ โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสำรวจความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมครั้งนี้ ทั้ง 2 องค์กร ยังคงมีเจตนารมย์ร่วมกันที่จะดำเนินการสำรวจความคิดเห็น เพื่อสะท้อนมุมมองของผู้ประกอบการที่มีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ไป.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง