เอ็นจีวี ปรับลด 58 ส.ต./กก. เริ่ม 16 พ.ย.

 


 

กรุงเทพฯ 15 พ.ย.- พรุ่งนี้มีข่าวดีราคาเอ็นจีวีลดลง 58 สตางค์/กก. ด้าน ปตท.เจรจา ปิโตรนาสนำเข้าแอลเอ็นจี 1 ล้านตัน/ปี ด้าน ปตท.สผ.เชื่อมั่น รัฐบาลจัดประมูลแหล่ง สัมปทานปิโตรเลียมหมดอายุได้ตามแผนในไตรมาส 3 /60


นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า บมจ.ปตท.ประกาศปรับลดราคาเอ็นจีวี ลง 58 สตางค์ในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ย.) ส่วงผลให้ราคา กรุงเทพฯ ไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่นราคาอยู่ที่ 11. 89 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ราคาก๊าซแหล่งอ่าวไทย ที่ราคาผันแปรตามราคาน้ำมันเตา มีผลย้อนหลัง 6-12 เดือน จึงทำให้ราคาลดลงได้

ด้านผู้ประกอบการ ปิโตรเลียม ต่างหาแนวทางลดต้นทุนรับมือราคาน้ำมันผันผวนอย่างต่อเนื่อง แสดงในการประชุมเทคโนโลยีปิโตรเลียมนานาชาติ ครั้งที่ 10 หรือไอพีทีซี ซึ่ง บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.)เป็นเจ้าภาพมีผู้ร่วมงานจาก 50 ประเทศ กว่า 2 พันคนเข้าร่วมงาน   โดยผู้บริหารผู้บริหารระดับสูงบริษัทน้ำมันและก๊าซระดับแถวหน้า เช่น PETRONAS, Woodside Energy และ Schlumberger ต่างชูความสำคัญของเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความสำเร็จและลดต้นทุน เพื่อช่วยให้บริษัทน้ำมันและก๊าซอยู่รอดในภาวะราคาน้ำมันผันผวน  ในขณะที่ประชาชนสามารถเข้าชมนิทรรศการได้ ที่บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ได้ระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย. โดย กลุ่ม ปตท.ได้เข้าร่วมและโชว์เทคโนโลยี ทั้งสายห่วงโซ่อุปทาน  เช่น บมจ.ไทยออยล์ใช้หุ่นยนต์ เข้ามาช่วยในการบำรุงรักษาระบบท่อของ โรงกลั่นไทยออยล์ ซึ่งได้พัฒนาและนำมาใช้ได้จริง เตรียมให้บริการกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ เป็นต้น

S__6004789S__6004800S__6004793


นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  ปตท.สผ.กล่าวว่า การที่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะอยู่รอดภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันปัจจุบันนั้น แนวทางหนึ่งที่จะช่วยได้คือการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดย เทคโนโลยีที่ ปตท.สผ. ที่กำลังพัฒนานั้นจะมุ่งเน้นในด้านการเพิ่มความสำเร็จในการค้นพบปิโตรเลียม เช่น ศูนย์การประมวลผลเฉพาะงานคลื่นไหวสะเทือน (Dedicated Processing Center หรือ DPC) เทคโนโลยี Enhance Oil Recovery ที่ช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตจากแหล่งปิโตรเลียม และยานยนต์ใต้น้ำอัตโนมัติ (Autonomous Underwater Vehicle หรือ AUV) โดยในช่วง 2 ปีที่ราคาน้ำมันมีความผันผวนนั้น ปตท.สผ. ค่อนข้างประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งทำให้ ปตท.สผ.สามารถลดรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายดำเนินงานลงได้ถึง 15-20% ในปี 2559

ส่วนความเสี่ยงหลังสัมปทานแหล่งเอราวัณและบงกช จะหมดอายุในปี 2565-2566 นายสมพร เชื่อมั่นว่าการแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดประมูลและรับทราบผลที่ชัดเจนในไตรมาส 3 ปี/2560  ตามที่รัฐบาลกำหนด เพราะหากล่าช้าไปกว่าจะกระทบต่อประสิทธิภาพความต่อเนื่องของกำลังผลิตก๊าซที่มีเกือบครึ่งหนึ่งของความต้องการใช้ของประเทศ

S__6004792S__6004790

ด้านนายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท.(PTT)กล่าวว่าได้เสนอแผนการเข้าร่วมลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และการซื้อขาย LNG กับกลุ่มปิโตรนาสของมาเลเซีย ต่อรัฐบาล เบื้องต้นจะนำเข้า LNG ตามสัญญาระยะยาว 15 ปีกับปิโตรนาสได้ราว 1 ล้านตัน/ปี คาดว่าจะนำเข้าได้ในช่วงครึ่งหลังปี 2560  ในขณะที่ปีนี้คาดว่าไทยจะต้องนำเข้า LNG ราว 2.9 ล้านตัน และคาดว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง.ศุกร์นี้ จะมีการพิจารณาให้ ปตท.ขยายการลงทุนการนำเข้าแอลเอ็นจีในคลังแห่งที่ 2 ขยายเพิ่มจาก 5 ล้านตัน/ปี เป็น 7.5 ล้านตัน/ปี เงินลงทุนรวม 3 หมื่นล้านบาท ส่วนในต้นปี 2560 ก็คาดว่าจะสรุปแผนลงทุน โครงการสร้างคลังก๊าซธรรมชาติเหลวลอยน้ำ(Floating Storage and Regasification  Unit:FSRU) ในเมียนมาร์ได้ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนร่วมกันและใช้แอลเอ็นจีร่วมกันทั้ง 2 ประเทศ -สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง

กทม. 28 ก.ค.-ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง ขณะ ทภ.2 เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอม กองทัพไม่สนทางรัฐบาลเจรจา กร้าวเดินหน้ารบ-ประกาศอัยการศึก พร้อมชวนกดรีพอร์ทโพสต์-คอมเมนต์ผู้ไม่หวังดีโจมตีสื่อทางการไทย กองทัพบกทันกระแส รายงานว่าเข้าวันที่ 5 ของสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 1 ตี 3 จนฟ้าเริ่มสาง ทหารไทยยังไม่ได้พักมีทุกแบบ ทั้งคืน นอกจากนี้ กองทัพภาคที่2 ยังได้ขอความร่วมมือ ชาวโซเชียลไทย กดรีพอร์ท Report โพสต์หรือคอมเม้นต์ของผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการเข้ามา กลั่นแกล้ง ก่อกวน และโจมตี สื่อทางการไทย พร้อนเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม กรณีที่มีข่าวว่า “กองทัพแข็งกร้าว! ลั่นเดินหน้ารบ ซัดรบ.อย่าหวังเจรจา ขณะเขมรยึดพื้นที่ไทย จ่อใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ”.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย