บลจ.กรุงไทยลดเป้าเศรษฐกิจปีนี้ ห่วงผลกระทบทัวร์ศูนย์เหรียญ

กรุงเทพฯ 15 พ.ย. – บลจ.กรุงไทย ปรับลดจีดีพีปีนี้ เหลือโตร้อยละ 2.9-3 ห่วงท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักจากการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญ จับตานโยบาย “ทรัมป์” กระทบเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก


นายสมชัย อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ  ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงเหลือเติบโตร้อยละ 2.9-3 จากเดิมคาดว่าโตร้อยละ 3.2 เนื่องจากไตรมาส 4 มีปัจจัยในประเทศที่กระทบต่อความรู้สึกประชาชน ส่วนในปี 2560 คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวร้อยละ 3-3.5 เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนและปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะการบริโภคภายในประเทศ คาดว่าจะยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เนื่องจากประชาชนยังลดกิจกรรมความบันเทิง ประกอบกับการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญ จะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยในปีหน้ามากขึ้น ทำให้การท่องเที่ยวที่เป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ คาดการท่องเที่ยวปีหน้าโตเพียงร้อยละ 7-8 จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย33 ล้านคน ดังนั้นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจจึงขึ้นอยู่กับการลงทุนและการใช้จ่ายของภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าในปี 2560 การลงทุนภาครัฐจะเพิ่มมากขึ้น จากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆและ รัฐบาลอาจจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม

ส่วนผลกระทบจากนโยบายกีดกันการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์  อาจกระทบต่อการส่งออกของไทยบ้าง เนื่องจากไทยส่งออกไปสหรัฐอเมริกาประมาณร้อยละ 10  แต่ที่ผ่านมาการส่งออกของไทยก็สูญเสียความสามารถทางการแข่งขันไปบ้าง และส่งออกไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก คาดการส่งออกปีนี้ไม่ขยายตัว หรือร้อยละ 0 ขณะที่ปี 2560 กลับมาเป็นขยายตัวร้อยละ 2 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเสถียรภาพเศรษฐกิจสหรัฐ ที่จะเผชิญปัญหาการขาดดุลงบประมาณ และ หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 จากการลดภาษีนิติบุคคล และ การกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งอาจจะช่วยกระตุ้นจีดีพีสหรัฐในระยะสั้น แต่จะกระทบต่อเสถียรภาพในระยะยาว และ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ผลพวงจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้นในระยะสั้น จะกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในปลายปีนี้ และ 2 ครั้ง ในปีหน้า ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศ คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.) จะคงดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1.50 จนถึงสิ้นปี 2560 เพื่อพยุงเศรษฐกิจ


นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จะยังมีความผันผวนตามตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากยังต้องรอความชัดเจนว่านโยบายที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ หาเสียงไว้ จะปฏิบัติจริงเป็นนโยบายรัฐบาลได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตามการที่เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นเร็ว ทำให้มีเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นเกิดใหม่กลับไปยังสหรัฐ และตลาดหุ้นประเทศที่พัฒนาแล้ว เพื่อหาผลตอบแทนที่สูงกว่าโดยประเมินหุ้นไทยเคลื่อนไหวที่ 1,530 จุดในปลายปีนี้ และ เป้าหมายในปี 2560 อยู่ที่ 1,670 จุด โดยในช่วงปลายปี มีแรงซื้อจากกองทุน LTF และ RMF เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนในการช่วยพยุงภาวะตลาดหุ้นไทยบ้าง

ขณะที่การเมืองยุโรปซึ่งจะมีหลายประเทศเลือกตั้งในปีหน้า เป็นความเสี่ยงต่อตลาดทุนโลก เพราะอาจเกิดกระแสการต่อต้านการรวมกลุ่ม เหมือนกรณี Brexit และผลการเลือกตั้งสหรัฐ ที่เหนือความคาดหมาย จะไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลก

ด้านนางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มกองทุนรวมในช่วงนี้อาจได้รับความผันผวนจากภาวะการลงทุน แต่ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มูลค่ากองทุนของบริษัทยังโตกว่าร้อยละ 20  หรือกว่า 7.35 แสนล้านบาท สูงกว่าภาพรวมตลาดที่โตร้อยละ 13.8


 

ดังนั้นในช่วงปลายปีที่นักลงทุนให้ความสนใจในกองทุน LTF และ RMF เพื่อหักลดหย่อนภาษี บริษัทจึงได้เปิดตัว 3 กองทุนใหม่ ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยพร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์เฟล็กซิเบิล เพื่อการเลี้ยงชีพ, กองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทหุ้นระยะยาว เสนอขาย 14 ถึง 23 พฤศจิกายนนี้ และกองทุนกรุงไทยซีเล็กทีฟ หุ้นระยะยาว เสนอขาย 13 ถึง 21 ธันวาคมนี้ โดยมีมูลค่าโครงการกองทุนละ 1,000 ล้านบาท .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]