ดีเอสไอ 23 ม.ค.-หญิงวัย 34 เข้าร้องดีเอสไอ เอาผิดพระดังใน จ.กาฬสินธุ์ ฐานล่อลวงข่มขืน
น.ส.สม (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ผู้เสียหายจากการโดนพระเจ้าอาวาสวัดป่า วัย 70 ปี ใน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ล่อลวงให้มีเพศสัมพันธ์เข้ายื่นหนังสือ พร้อมหลักฐานเป็นภาพคลิปวีดีโอ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้เข้าดำเนินคดีเอาผิด โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอ เข้ารับเรื่อง
น.ส.สม กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2554 ขณะบวชชีพราหมณ์อยู่ที่วัด เจ้าอาวาสดังกล่าว เกิดอาการชอบพอ จึงใช้อุบายต่างๆ หลอกล่อ อ้างชาติที่แล้วเคยเป็นคู่กันมา ชาตินี้จึงเกิดมาคู่กันอีกครั้ง โดยพระได้แอบขอเบอร์โทรศัพท์ จึงแอบเขียนให้ในใบอนุโมทนาและได้เรียกเข้าไปพบในกุฎิถึง 3 ครั้ง ก่อนที่ครั้งที่ 4 โทรศัพท์มาหาช่วงกลางดึก อ้างว่าอาพาธขอให้นำยามาให้ ก่อนจะถูกข่มขืน
เมื่อถามว่าตอนนั้นรู้สึกตัวหรือไม่ ผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้สึกตัวดีแต่มีความ รู้สึกกระวนกระวาย อยากไปพบไปเจอ คล้ายกับโดนมนต์ดำยาสเน่ห์ จึงทำให้คล้อยตามที่สั่งการ
หลังโดนล่อลวงครั้งแรก พระกลับปฎิบัติศาสนกิจตามปกติราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ควรต้องปาราชิกขาดจากความเป็นพระ ตนจึงวางแผนอัดวิดีโอเพื่อตีแผ่ จึงยอมมีเพศสัมพันธ์อีกครั้งและอัดคลิปวิดีโอเพื่อไว้เป็นหลักฐานเอาผิด และนำไปเผยแพร่ให้สังคมรับทราบ ซึ่งจากการพูดคุยในเรื่องนี้พบว่ามีเหยื่อที่ถูกหลอกลวงไปข่มขืนเช่นตนอีก ประมาณ 3-4 ราย บางรายเป็นนักเรียนชั้น ม.5 และหญิงวัยอายุ 40 ปีก็มี ซึ่งเหยื่อที่โดนยังไม่กล้าออกมาให้ข่าวเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของพระ ที่ผ่านมาเคยนำเรื่องไปร้องเรียนเจ้าคณจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
นอกจากนั้นยังถูกข่มขู่หลังทราบว่ามีคลิป โดยหัวหน้าแม่ชี มอบหมายแม่ชีอีกคนไปแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหากรรโชกทรัพย์ และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเคยร้องเรียนไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) และพศ.ส่งเรื่องกลับมาให้เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อตรวจสอบแล้วทราบว่ามีการรายงานไปที่เจ้าคณะภาค 9 ว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเป็นการกุเรื่องขึ้นมา และระบุว่าตนมีการขอขมาต่อพระแล้ว ซึ่งเรื่องการขอขมา ยอมรับว่ามีการเข้าขอขมาจริงแต่เป็นไปเพราะต้องการให้เรื่องจบ เพื่อไม่ให้ตนและครอบครัวต้องได้รับผลกระทบ
“เรื่องนี้ที่กล้าอออกมาพูดเพราะ ไม่ต้องการให้คนไม่ดีออกมาใช้อำนาจมืดข่มขู่ ผู้ที่ถูกกระทำ วันนี้ยอมอายเพื่อให้สังคมได้รับรู้ถึงพฤติกรรมของคนเป็นพระ” น.ส.สม กล่าว
ด้านพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับเรื่องไว้ตรวจสอบตามขั้นตอน ซึ่งต้องพิจารณาคำร้องอย่างละเอียดว่าเข้าข่ายกระทำผิดหรือไม่ โดยต้องแยกดำเนินการระหว่างทางสงฆ์กับคดีทั่วไป หากมีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับทางสงฆ์ก็ต้องแจ้งไปยังมหาเถรสมาคม(มส.) ให้ดำเนินการตามพ.ร.บ.สงฆ์. – สำนักข่าวไทย