เชียงคาน 24 ม.ค. – บรรยากาศทะเลหมอกภูทอก และมนต์เสน่ห์ความเงียบสงบ ผสมวัฒนธรรมบ้านเรือนเก่าแก่นับร้อยปีของที่พักโฮมสเตย์บ้านไม้ในเชียงคาน ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าไปเยี่ยมชมไม่ขาดสายในช่วงอากาศหนาวเย็น
“เชียงคาน” แหล่งอารยธรรมเก่าแก่แห่งลุ่มน้ำโขง แม้เป็นอำเภอเล็กๆ แต่มีมนต์เสน่ห์เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปเยือนอย่างไม่ขาดสาย เพราะได้พัฒนาเมืองผสมผสานระหว่างความทันสมัยและคงความคลาสสิกบ้านไม้เก่าแก่นับร้อยปีของคนไทยเชื้อสายลาว บวกกับความเงียบสงบ วิถีชีวิตแบบเรียบง่ายของคนในท้องถิ่น ลมเย็นพัดโชยตลอดทั้งวัน เติมด้วยทัศนียภาพริมฝั่งโขง โดยเฉพาะเมื่อแสงสุดท้ายลับขอบฟ้า ยิ่งทำให้ถนนคนเดินเมืองเชียงคานคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างถิ่น หนีความวุ่นวายมาหาความสงบ ต่างเดินหาซื้อสินค้า อาหารพื้นเมือง ของฝากอันหลากหลาย มีคำฮิตติดตลกว่า “ลงคาน คานหัก หนีคาน”
หากต้องการให้ “เชียงคาน” เป็นแหล่งท่องเที่ยวอนุรักษ์เชิงวัฒนธรรม ทั้งผู้ประกอบการและชาวบ้านต้องช่วยกันดูแลรักษาคุณค่าเหล่านี้ไว้ ที่สำคัญได้ขอให้ภาครัฐช่วยส่งเสริม หรือสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำให้ชาวบ้านได้พัฒนาปรับปรุงอาคารบ้านเรือน คงสภาพความสวยงามไว้ให้ลูกหลานมาเที่ยวชมได้อีกนานแสนนาน
มาเที่ยวเชียงคาน สิ่งที่ลืมไม่ได้ คือ ต้องแวะไปชมทะเลหมอกภูทอก ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานเพียง 8 กิโลเมตร โดยควรออกจากที่พักประมาณ 05.00-06.00 น. ผ่านไปทางแยกเข้าแก่งคุดคู้ แล้วเลี้ยวขึ้นภูทอก จอดรถยนต์ส่วนตัวแล้วต่อด้วยรถกระบะของชาวบ้าน คนละ 25 บาท จากนั้นจะได้ชมความงามของทะเลหมอก สายหมอกทอดตัวลอยอวดความงาม ตั้งแต่ยามเช้าจนถึง 08.00 น. และยังเดินรอบภูทอก ชมวิวเมืองเชียงคานได้รอบทิศ หากวันไหนสภาพอากาศดีแบบนี้ ถือว่าโชคดีของนักท่องเที่ยว จะได้ชมความงามของทะเลหมอกอย่างเต็มอิ่ม. – สำนักข่าวไทย