ป.ปช.แนะ ใช้วิกฤตสินบนข้ามชาติสังคายนารัฐวิสาหกิจ

IMG_5526พรรคประชาธิปัตย์ 29 ม.ค.-นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสินบนข้ามชาติที่ถูกเปิดเผยออกมาอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ว่าจะเห็นได้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสินบนข้ามชาติคือรัฐวิสาหกิจทั้งนั้น ทั้งการบินไทย ปตท. กฟน. กฟภ. ทีโอที ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐวิสาหกิจมีปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน กันอย่างแพร่หลาย ถึงขนาดที่อดีตอนุกรรมการประเมินผลรัฐวิสาหกิจของกระทรวงการคลังคนหนึ่งเคยระบุว่า การจัดซื้อจัดจ้างในรัฐวิสาหกิจไม่ต่ำกว่า 60 – 70 เปอร์เซ็นต์ มีปัญหารับเงินใต้โต๊ะ โดยทำกันจนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติปกติเพราะฉะนั้นในโอกาสที่มีการเปิดโปงเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันโดยการรับสินบนข้ามชาติของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งขณะนี้ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นอย่างมาก รัฐบาลควรใช้วิกฤตจากสินบนข้ามชาติครั้งนี้ให้เป็นโอกาสในการสังคายนารัฐวิสาหกิจไทยทั้งระบบให้ปลอดจากการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อให้รัฐวิสาหกิจเป็นองค์กรที่มีส่วนในการพัฒนาประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ใช่องค์กรผลาญชาติ


นายองอาจ กล่าวว่าการจะสังคายนาองค์กรรัฐวิสาหกิจ มี 3 ส่วนสำคัญที่ควรดำเนินการคือต้องให้มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ควรใช้วิธีการคัดเลือกสรรหาแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจด้วยระบบคุณธรรมอย่างเคร่งครัด และการได้มาซึ่งประธานและกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจควรมีกระบวนการให้ได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถทำประโยชน์ให้องค์กรอย่างแท้จริง ทั้งนี้นอกจากทำให้รัฐวิสาหกิจเป็นองค์กรที่ปลอดจากการทุจริตคอร์รัปชันแล้ว ยังต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้นักการเมืองบางส่วน และผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเข้ามาใช้อำนาจหน้าที่ในการแสวงหาหาผลประโยชน์เกาะกินรัฐวิสาหกิจได้อีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย