อุบลราชธานี 30 ม.ค.- รพ.วารินชำราบดูแลทารกหญิงอายุไม่ถึงสัปดาห์อย่างใกล้ชิดโดยรวมปลอดภัยดี หลังถูกทิ้งกองขยะช่วงตรุษจีนตั้งชื่อ “น้องอั่งเปา” ขณะที่หน่วยงาน-ประชาชนรุดเยี่ยม มีผู้แจ้งประสงค์ขอรับเลี้ยง ด้านนักสังคมสงเคราะห์เผยสถิติตั้งครรภ์ไม่พร้อมพบเพิ่มในกลุ่มอายุมากกว่า 20 ปี
กรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบูชาธรรมสถาน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีพบเด็กทารกเพศหญิงแรกเกิด อายุ 1-2 วัน ถูกทิ้งไว้ในถังขยะ ริมถนนข้างสระว่ายน้ำโรงเรียนอนุบาล เมื่อกลางดึกวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงได้เข้าช่วยเหลือนำตัวเด็กส่งให้แผนกหลังคลอดโรงพยาบาลวารินชำราบช่วยดูแลและตั้งชื่อเรียกของทารกน้อยรายนี้ว่า “น้องอั่งเปา” เพราะพบในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ล่าสุด (30 ม.ค.) นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้นางพิมลรัตน์ สุกใส รองนายกเหล่ากาชาด นายไพรวรรณ กาญจนวงศ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด เยี่ยมอาการทารกที่โรงพยาบาลวารินชำราบพบว่าอาการทั่วไปปกติ น้ำหนักตัวเพิ่มจากวันแรกที่ชั่งได้ 2,400 กรัม เป็น 2,600 กรัม และไม่มีอาการแทรกซ้อนใด ๆ พร้อมกันนี้คณะเหล่ากาชาดยังมอบเครื่องใช้เด็กอ่อนและสิ่งของจำเป็นจากผู้มีจิตเมตตานำมาช่วยเหลือด้วยหลังทราบข่าวจากสื่อ เช่น น.ส.ยุภาวดี (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ระบุว่า รู้สึกสงสารเด็กถูกผู้ให้กำเนิดทอดทิ้ง เพราะตนเคยผิดพลาดตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุ 16 ปี โชคดีครอบครัวเข้าใจ โดยเฉพาะคุณพ่อเป็นคนดุมาก แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ทั้งพ่อและแม่กลับเป็นผู้ที่เข้าใจเรามากที่สุด ให้กำลังใจปลอบใจ ที่สำคัญบอกว่าครอบครัวจะแก้ปัญหานี้ด้วยกัน ปัจจุบันลูกของตนอายุ 2 ขวบแล้ว อยากเรียกร้องให้พ่อแม่ของทารกรายนี้ฉุกคิดบ้างถึงความอบอุ่นที่เด็กจะได้รับจากพ่อแม่ ดีกว่าอยู่กับบุคคลอื่น
ด้าน น.ส.ปรินธร บุญเนตร นักสังคมสงเคราะห์โรงพยาบาลวารินชำราบ กล่าวถึงปัญหาการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมว่า จากการรวบรวมข้อมูลเฉพาะในพื้นที่อำเภอวารินชำราบพบว่าปี 2559 เกิดปัญหาเช่นนี้ทั้งหมด 23 ราย ถือเป็นแนวโน้มลดลง และเกิดในกลุ่มวัยทำงานที่เป็นบ้านที่สองมากกว่ากลุ่มวัยรุ่น สำหรับการดูแลน้องอั่งเปา ได้ให้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อจากแผลที่สายสะดือ เพราะมีการตัดอย่างไม่ถูกวิธี และจะตรวจเก็บตัวอย่างเลือดหาความเกี่ยวโยงของผู้เป็นพ่อแม่ หากมีการมาแสดงตัวขอรับลูกในภายหลัง
น.ส.ปรินธร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีผู้แจ้งความประสงค์ขอรับไปเลี้ยงดูเป็นบุตรบุญธรรม 3-4 ราย แต่ได้ให้แจ้งความประสงค์ไว้ เพราะหลังน้องอั่งเปามีสุขภาพสมบูรณ์ดี ต้องส่งต่อไปให้บ้านพักเด็กและครอบครัว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดดูแล เพื่อจัดหาครอบครัวที่ต้องการรับเลี้ยงดูตามกระบวนการอย่างรัดกุม หากพ่อแม่ที่แท้จริงน้องอั่งเปาต้องการรับลูกกลับไปเลี้ยง สามารถติดต่อได้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี หมายเลขโทรศัพท์ 045-242-641 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพช่วยแนะนำทางออกในการแก้ปัญหาเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไม่มีผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย