ตาก 4 ก.พ. – บริษัท พีดีไอตาก อีโค จำกัด จัดประชุมเพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (ค.1) โครงการศูนย์บริหารจัดการกากอุตสาหกรรมเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน เพื่อรับฟังรายละเอียดโครงการฯ นายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล นายอำเภอเมืองตาก กล่าวว่า โครงการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นนี้สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์การจัดการกากอุตสาหกรรมของภาครัฐ และยังเป็นโครงการที่พัฒนาโดยบริษัท พีดีไอตาก อีโค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของผาแดงฯ ซึ่งที่ผ่านมาโรงงานของผาแดงมีการตรวจสอบดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดไม่ก่อให้เกิดปัญหากับชุมชน รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นพัฒนาโครงการฯ ทำให้มั่นใจว่าการดำเนินโครงการใหม่จะมีมาตรฐานที่เข้มงวดในระดับสากล
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกรมโรงงาน เนื่องจากเป็นโครงการที่สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์การจัดการกากอุตสาหกรรม พ.ศ. 2558-2562 ของกระทรวงอุตสาหกรรม ทำให้กากอุตสาหกรรมได้รับการกำจัดอย่างถูกหลักวิชาการ มีความปลอดภัยต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศและลดการลักลอบทิ้งของเสียอุตสาหกรรมอย่างผิดกฎหมาย ทั้งนี้ โครงการจะใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับการออกแบบเพื่อปกป้องปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นและการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมอย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพหลายขั้นตอน ทำให้มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดูแลและปกป้องสิ่งแวดล้อม และดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ทำให้มั่นใจว่าบริษัทฯ จะดำเนินโครงการฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดทั้งต่อสังคม ประเทศชาติและชุมชน
สำหรับของเสียอุตสาหกรรมที่โครงการฯ รับกำจัด ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปที่หมดอายุหรือไม่ได้ตามมาตรฐานจากกระบวนการผลิต เช่น ภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ น้ำเสียจากอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เศษผ้าและเศษกระดาษที่ปนเปื้อนสีหรือน้ำมันหล่อลื่น เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จะรองรับของเสียอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ ในช่วงแรกโครงการฯ จะใช้เงินลงทุนประมาณ 300-400 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดดำเนินการภายในปี 2562 และจะมีการจ้างงานประมาณ 80 คน
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวเป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งแรกเกี่ยวกับโครงการ เพื่อรับฟังข้อห่วงใยต่าง ๆ และนำไปจัดทำมาตรการและสร้างความมั่นใจต่อการดำเนินโครงการฯ พร้อมทั้งยังทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับฟังข้อมูลรายละเอียดโครงการอย่างถูกต้องและมีความเข้าใจที่ดี.-สำนักข่าวไทย