ม.หอการค้าไทย 6 ก.พ. – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจคาดเงินสะพัดวาเลนไทน์ปีนี้สูงสุดในรอบ 10 ปี 3,707 ล้านบาท แต่อัตราเพิ่มขึ้นไม่ถึงร้อยละ 1 ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่วันมาฆบูชามีเงินสะพัด 3,181 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.41
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภควันวาเลนไทน์และมาฆบูชา ว่า วันวาเลนไทน์ปีนี้คาดจะมีเงินสะพัด 3,707 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี แต่มีอัตราเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.87 ซึ่งเป็นการเติบโตต่ำสุดในรอบ 10 ปี เพราะประชาชนส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจแย่ลง ราคาสินค้าแพงขึ้น กังวลความปลอดภัย โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 2,262 บาท ปริมาณสินค้าส่วนใหญ่คาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ซื้อมูลค่าเพิ่มขึ้น เงินที่จะนำมาใช้ส่วนใหญ่เป็นเงินเดือนร้อยละ 63 รองลงมาคือเงินออมร้อยละ 29.4 โบนัสร้อยละ 6.4 ขอผู้ปกครองร้อยละ 1.3
ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างเห็นว่าคนไทยให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มากขึ้นในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมาร้อยละ 43.8 กลุ่มที่ให้ความสำคัญมากที่สุด คือ กลุ่มวัยรุ่นร้อยละ 61 วัยทำงานร้อยละ 23.7 ส่วนใหญ่ฉลองกับคนรักร้อยละ 79.5 รองลงมาเพื่อนร้อยละ 10.6 และพ่อแม่ร้อยละ 7.3 สีที่เป็นตัวแทนสมหวังในความรัก คนส่วนใหญ่ร้อยละ 45.6 มองว่าสีแดงอันดับหนึ่ง รองลงมาสีชมพูและขาวตามลำดับ นิยามความรักปีนี้ อันดับแรกการร่วมทุกข์ร่วมสุข ร้อยละ 34.8 รองลงมาการให้กำลังใจ และความสุข ตามลำดับ ความคาดหวังของขวัญจากคู่รักวันวาเลนไทน์ปีนี้ อันดับ 1 ดอกไม้ ร้อยละ 67.5 รองลงมาของขวัญและช็อคโกแล็ต ตามลำดับ
สำหรับกิจกรรมปีนี้จะออกไปทานข้าวร้อยละ 47 คาดใช้เงินเฉลี่ยประมาณ 1,231 บาทต่อคนเงินสำหรับซื้อของขวัญคาดว่าจะใช้เฉลี่ยประมาณ 977 บาทต่อคน และซื้อดอกไม้เฉลี่ย 315 บาทต่อคน ดอกไม้ที่อยากได้ปีนี้ คือ ดอกกุหลาบ ร้อยละ 82.9 รองลงมาคือทิวลิปและลิลลี่ตามลำดับ กลุ่มที่มีคาดว่าจะใช้จ่ายเพื่อซื้อของขวัญให้คู่รักมากที่สุด คือ อายุ 40-49 ปี เฉลี่ยประมาณ 1,950 บาท เนื่องจากมีกำลังทรัพย์ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่ากลุ่มที่คาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์คือกลุ่มนักศึกษา ร้อยละ 42.3 สถานที่ที่วัยรุ่นอาจจะฉลอง อันดับ 1 ห้องพักรายวัน รองลงมาอพาร์ทเม้นต์และโรงแรมม่านรูด
ส่วนพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงวันมาฆบูชา คาดว่าจะมีเงินสะพัด 3,181 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.41 เฉลี่ยต่อคน 2,448 บาท กิจกรรมส่วนใหญ่คือทำบุญ ร้อยละ 62.10 รองลงมา การเดินทางท่องเที่ยว ร้อยละ 26.10 คาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายปีนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงร้อยละ 47.7 แต่จำนวนชิ้นจะเพิ่มขึ้น ร้อยละ 48.4 การซื้อสังฆภัณฑ์อันดับแรกซื้อวัด แถวหน้าวัด และซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยปีนี้เป็นปีแรกที่เริ่มสั่งซื้อออนไลน์ร้อยละ 2.7 เงินที่นำมาใช่ส่วนใหญ่เป็นเงินเดือน เงินออม และโบนัส ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าศาสนาของไทยยึดวัตถุนิยมหรือพาณิชย์มากขึ้น ถึงร้อยละ 39.3 หลักสูตรการเรียนในปัจจุบันให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาน้อยมาก ร้อยละ 30.9 ขณะที่ผู้ปกครองสอนหลักธรรมให้ลูกหลานแค่ร้อยละ 41.5
ทั้งนี้ ประชาชนคาดว่าจะใช้จ่ายช่วงวันมาฆบูชามากกว่าวันเลนไทน์ร้อยละ 49.1 สิ่งที่กังวลอันดับ 1 การปลูกฝังเรื่องคุณธรรม จิรยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีของไทยร้อยละ 42.4 รองลงมาปัญหายาเสพติดและการพนัน รวมถึงปัญหาครอบครัวแตกแยกตามลำดับ สิ่งที่ตั้งใจจะทำในวันมาฆบูชา คือ การถือศีลห้า การละเว้นพูดไม่ดี เช่น การพูดโกหกหรือพูดสอดเสียด และไม่เล่นการพนัน .-สำนักข่าวไทย
