กรุงเทพฯ 10 ก.พ. – ผจก.กองทุนเชื่อหุ้นไทยยังไปต่อได้ จากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ เป้าหมายหุ้นไทย 1,680 จุด
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยในเวทีเสวนา วันอินเวสต์เม้นต์ฟอรั่มว่า ตลาดหุ้นไทยยังไปต่อ จากสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจโลกและปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ยังเติบโตได้ คาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้โตร้อยละ 3.4 มูลค่าหุ้นยังอยู่ในระดับไม่สูงมากเมื่อเทียบกับกลุ่ม TIP คือ ไทย อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ โดยคาดว่าดัชนีหุ้นไทยปีนี้จะแกว่งตัวผันผวนระหว่าง 1,500-1,680 จุด โดยอัตราส่วนราคากำไรสุทธิ ที่ 15.5 เท่า หรือ กำไรสุทธิต่อหุ้นที่ 107-108 บาท โดยกลุ่มที่น่าลงทุนคือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง พลังงาน ไอซีที และ เช่าซื้อ
นายพจน์ กล่าวด้วยว่า สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกมีทิศทางฟื้นตัวในขาขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่าง สหรัฐ ญี่ปุ่น ซึ่งได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะเติบโตได้ร้อยละ 3.2 ส่วนสหรัฐจะเติบโตร้อะ 2.3 จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทางด้านภาษี การสร้างงานผ่านนโยบายอเมริกันเฟิร์ส และการอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์ของทรัมป์
อย่างไรก็ตามยังต้องจับตามองแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งคาดว่าปีนี้จะปรับขึ้น 2 ครั้ง ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดเงินทุนไหลกลับ เมื่อมีความชัดเจนเรื่องดอกเบี้ย
ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า แผนลดภาษีบริษัทจดทะเบียนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผลบวกกับ บริษัทจดทะเบียนของอเมริกา ส่งผลให้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตอบรับปรับตัวขึ้นมาก เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าผลประกอบการจะดีขึ้น ประกอบกับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ เติบโตดีกว่ายุโรปจึงทำให้ตลาดอเมริกาเป็นที่น่าสนใจลงทุน
ส่วนกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้นมองว่าเป็นการกระจายเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี โดยในปีนี้กำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปี 2559 เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจ ชใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ดึงดูดการลงทุนของต่างชาติ
อย่างไรก็ตามการลงทุนในตลาดหุ้นปีนี้มีความผันผวนสูงจากปัจจัยต่างประเทศที่คาดการณ์ได้ยากดังนั้นนักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ส่วนนักลงทุนที่สนใจไปลงทุนยังตลาดต่างประเทศแนะนำให้ใช้ผู้จัดการลงทุนแทนจะเป็นประโยชน์มากกว่า .-สำนักข่าวไทย