เชียงราย 13 ก.พ.-บทบาทของพระภิกษุสงฆ์ นอกเหนือจากเผยแผ่พระพุทธศาสนาแล้ว ยังต้องชี้ทางสว่างให้กับผู้หลงผิด อย่างพระวัดถ้ำป่าอาชาทอง จ.เชียงราย ที่ขี่ม้าบิณฑบาตก็เป็นตัวอย่างในการใช้หลักธรรมนำเยาวชนตามแนวชายแดนที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเข้าสู่การบำบัด รวมถึงกระตุ้นชาวบ้านช่วยกันปกป้องผืนป่าอีกด้วย
ดอยสูงที่โอบล้อมคอกม้าเล็กๆ ในวัดถ้ำป่าอาชาทอง ต้นตำรับพระขี่ม้าบิณฑบาต ในอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย วัยรุ่นชาย 2 คน กำลังพาม้าหลายสิบตัววิ่งออกกำลังกาย เป็นการฝึกร่างกายและจิตใจเขาให้เข้มแข็งขึ้น หลังทั้ง 2 คนมาจากหมู่บ้านบนดอยสูงชายแดนไทย-เมียนมาร์ คนหนึ่งเคยติดยาเสพติดขนาดจิตหลอน ส่วนอีกคนชอบมีเรื่องชกต่อย จนได้รับการชักชวนให้มาอยู่ที่วัดนี้ จนทั้ง 2 คนกลายเป็นคนใหม่ในเวลาไม่นาน
ทั้ง 2 คนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ครูบาเหนือชัย โฆษิโต ซึ่งขี่ม้าออกบิณฑบาตและเผยแผ่พุทธศาสนาไปตามหมู่บ้านชายแดนมากว่า 20 ปี ชักชวนหรือได้รับการขอร้องจากพ่อแม่ให้ช่วยนำลูกหลานไปบำบัดยาเสพติดและบวชเรียนมาหลายร้อยคนแล้ว และเทศนาธรรมให้ชาวบ้านเห็นโทษของยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง ช่วง 20 ปีมานี้ครูบาเหนือชัยถูกลอบยิงไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง รุนแรงที่สุดถูกยิงจนกระดูกหัก นายทหารคนนี้เคยอยู่ในเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่คนร้ายพยายามลอบทำร้ายครูบาเหนือชัย
เพราะนอกจากพยายามแก้ปัญหายาเสพติดแล้ว ครูบาเหนือชัยยังต่อต้านการบุกรุกทำลายป่าของกลุ่มนายทุน โดยพยายามสร้างความเข้าใจให้ชาวบ้านเห็นความสำคัญของผืนป่า เทศนาให้ชาวบ้านยึดมั่นในความดี อยู่ในศีลในธรรม เพียงแค่รักษาศีล 5 ได้ชีวิตจะมีความสุข
ครูบาเหนือชัยในวัย 55 ปี เพิ่งฟื้นตัวจากอาการอาพาธมานานกว่า 2 ปี แต่ยืนยันความตั้งใจที่จะขี่ม้าออกบิณฑบาต ให้ผู้คนละเว้นการทำชั่ว หันมาทำความดีให้มากที่สุด พระขี่ม้าบิณฑบาตจึงไม่ได้เป็นเพียงอันซีนไทยแลนด์เท่านั้น แต่ยังเป็นอันซีนในทางธรรมด้วย.-สำนักข่าวไทย