กรุงเทพฯ 15 ก.พ.- โฆษกพรรคชาติพัฒนา เสนอต่ออนุกรรมการรับฟังความเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง เสนอให้สร้างความปรองดองก่อนเลือกตั้ง ก่อนประกาศแผนยุทธศาสตร์ชาติต้องทำประชาพิจารณ์ก่อน
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วย นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนาจำนวน 15 คน เดินทางเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นต่อคณะอนุกรรมการรับฟังความเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน โดยพรรคชาติพัฒนาได้เตรียมเอกสารและข้อมูลครบถ้วนทั้ง 10 ประเด็น ตามที่ได้รับเชิญมาจากคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งนายสุวัจน์ ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า พรรคชาติพัฒนา ได้ยึดถือหลักการทำงานด้านความสามัคคีปรองดองมาตลอด นับแต่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ผู้ก่อตั้งพรรคและอดีตหัวหน้าพรรค ภายใต้สโลแกน “หันหน้าเข้าหากัน สร้างสรรค์เศรษฐกิจไทย”
ด้าน ปลัดกระทรวงกลาโหม เปิดเผยก่อนการพูดคุยว่า เบื้องต้นจะมีการพูดคุยแบบนอกรอบจากนั้นจะเป็นการพูดคุยเพื่อนำเสนอข้อมูลทั้ง 10 ด้านต่อคณะอนุกรรมการฯ
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรคชาติพัฒนา เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยภายหลังเข้าเสนอความเห็นเรื่องการสร้างความปรองดอง กับคณะอนุกรรมการรับฟังความเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทางด้านคณะกรรมการเปิดโอกาสให้พรรค เสนอความเห็นเต็มที่ ซึ่งพรรคได้ทำข้อเสนอเป็นเอกสารจำนวน 18 หน้า มามอบให้พร้อมกับชี้แจงรายละเอียด
“สิ่งที่พรรคเสนอคือต้องสร้างความปรองดองก่อนเลือกตั้ง ภายใต้หลักการของความยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่าน และความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ด้วยการให้อภัยซึ่งกันและกันและควรตกลงร่วมกันให้ทุกพรรคการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งและยอมรับผลการเลือกตั้ง และหลังตั้งรัฐบาลแล้วทุกพรรคต้องร่วมกันทำงาน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ และต้องไม่สร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่ภาวะทางตันทางการเมือง” นายชลิตรัตน์ กล่าว
โฆษกพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ นอกจากนี้ยังเสนอให้ปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ ทั้งการเกษตร เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนากลไกควบคุมกันเองของสื่อ ปฏิรูปการศึกษา ทรัพยากรธรรมชาติ ยกระดับการกีฬาให้เป็นยุทธศาสตร์ชาติ พัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แผนยุทธศาสตร์ชาติควรมีความยืดหยุ่นสามารถปรับตัวได้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน และก่อนการประกาศใช้แผนยุทธศาสตร์ชาติต้องทำประชาพิจารณ์เพื่อการยอมรับของทุกภาคส่วนด้วย.-สำนักข่าวไทย