ประจวบคีรีขันธ์ 17 พ.ย.- ประจวบฯ จัดงาน “หัวหินบ้านของพ่อ” ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน อบอวลไปด้วยความซาบซึ้งและความประทับใจจากเรื่องราวของผู้มีโอกาสได้ถวายงานหลายด้าน มีทั้งศิลปินภาพวาด อดีตเจ้าของสุนัขทรงเลี้ยง “หลวงแจ่ม ภักดี” อดีตนักเรียนรายการศึกษาทัศน์ โรงเรียนวังไกลกังวล และประธานกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านเขาเต่าโครางการพระราชดำริ
นายทวีนริศ สิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ร่วมเปิดงาน “หัวหิน บ้านของพ่อ” ที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ต เขตเทศบาลเมืองหัวหิน ซึ่งมีนิทรรศการเชิดชูพระเกียรติ พระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถ รวมทั้งพระราชกรณียกิจและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
พร้อมกันนี้ ประชาชนทั้งไทยและต่างชาติยังร่วมกันประดับเหรียญประติมากรรม ”ตรึงดวงจิต ติดเงินเหรียญ” นิทรรศการงานพ่อ นิทรรศการหัวหินบ้านพ่อ โครงการพระราชดำริในพื้นที่ จ.เพชรบุรี และ จ. ประจวบคีรีขันธ์ นิทรรศการทุกดวงตราจารึกไว้…สถิตย์ในดวงใจไทยนิรันดร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังได้ซาบซึ้งความประทับใจจากเรื่องราวของผู้ได้ถวายงานอย่างใกล้ชิด อาทิ น.ส.ทิพย์วรรณ ศุภกิจถาวร หรือครูส้ม อดีตนักเรียนรายการศึกษาทัศน์ โรงเรียนวังไกลกังวล นางฉันทนา ศรีสวัสดิ์ อดีตเจ้าของสุนัขทรงเลี้ยง “หลวงแจ่ม ภักดี” นางอมลวรรณ เอี่ยมสำอางค์ ประธานกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านเขาเต่า โครงการพระราชดำริ ที่ได้เข้าเฝ้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และรับพระราชทานเหรียญทองคำคนขยัน นายทวี เกษางาม ประธานกลุ่มศิลปินเมืองหัวหินผู้วาดภาพถวายเพื่อประดับตกแต่ง ภายในที่ประทับรับรองพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
น.ส.ทิพย์วรรณ หรือครูส้ม อายุ 29 ปี ปัจจุบันเป็นครูผู้ช่วยสอนดนตรีสากลโรงเรียนรัชตวิทยาคม ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี เล่าว่า เมื่อครั้งเรียนอยู่ระดับมัธยมปีที่ 2 โรงเรียนวังไกลกังวล ได้รับเลือกให้เข้าร่วมรายการศึกษาทัศน์ ของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 4 ครั้ง ทรงพระกรุณาเป็นครูให้ความรู้แก่นักเรียนรายการศึกษาทัศน์ และนักเรียนปลายทาง “ทรงรับสั่งกับนักเรียนเสมอว่าการเรียนรู้อะไรนั้น ต้องเรียนรู้ จนรู้ถ่องแท้ การเรียนรู้จะต้องอาศัยการลงมือทำ หากไม่เข้าใจอะไรให้ถามและควรจดบันทึก การจดบันทึกก็ต้องเข้าใจก่อน จึงจะจดบันทึกนั้น เพื่อทบทวนความจำของเรา การเรียนกับพระองค์ท่านแต่ละครั้ง พระองค์ทรงมีพระอารมณ์ขันมาก หลายครั้งที่ท่านตรัสเรื่องตลก ๆ ให้นักเรียนฟัง หลายครั้งมีเรื่องชวนหัวเราะบ่อย”
ด้านนางฉันทนา อดีตเจ้าของสุนัขทรงเลี้ยง “หลวงแจ่ม ภักดี ” เล่าว่า พระองค์ทรงมีพระเมตตากับต่อทุกชีวิตบนแผ่นดิน ซึ่งบ้านตนอยู่ใกล้กับวังไกลกังวล และได้ซื้อสุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดมาเลี้ยงตั้งชื่อว่า”เจมส์” ขณะอยู่บ้านหรือไปทะเลจะมีอาการนิ่งสงบ แต่ชอบลอดรั้วเข้าไปนั่งเล่นในวัง ซึ่งมีสระบัวและสนามหญ้าร่มรื่นเป็นประจำจนวันหนึ่งเจ้าหน้าที่ในวังแจ้งว่า”เจมส์”เข้ามาบ่อย ทำให้ต้องขังไว้ในบ้าน หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ในวังไกลกังวลมาถามหาเจ้าเจมส์อีก เนื่องจากพระองค์ทรงตรัสถามถึงสุนัขที่ชอบมาเล่นน้ำที่สระบัว และพระองค์ทอดพระเนตรเห็นเป็นประจำ เจ้าหน้าที่จึงพาเจ้าเจมส์ไปเข้าเฝ้าเป็นเวลา 3 วัน และมาส่งคืน จึงเห็นว่าพระองค์ทรงโปรดเจ้าเจมส์มาก จึงน้อมเกล้าฯ ถวาย เพื่อให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ และทราบว่าได้พระราชทานชื่อเจ้าเจมส์ใหม่ว่า” หลวงแจ่ม” พร้อมพระราชทานนามสกุลว่า “ภักดี “
ขณะที่นางอมลวรรณ ประธานกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านเขาเต่า ตามโครงการพระราชดำริ กล่าวว่า ได้ปฏิญาณตนไว้ว่าชีวิตที่เหลือคือการตอบแทนพระองค์ท่าน และทุกครั้งที่พระองค์จะเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านเขาเต่า ส่วนใหญ่คนในพื้นที่บ้านเขาเต่า ผู้ชายจะไปออกเรือ พระองค์ท่านก็ได้จัดเจ้าหน้าที่จากจังหวัดราชบุรีมาสอนทอผ้าให้กับผู้หญิง เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพ เช่น การทอผ้ากี่กระตุก การย้อมผ้า การออกแบบลวดลาย และการตัดเย็บ เพื่อเป็นช่องทางหารายได้ให้กับครอบครัว กระทั่งเดือนพฤษภาคม 2509 เจ้าหน้าที่มาแจ้งให้ทราบว่าผู้ที่เรียนทอผ้าจบแล้วพระองค์จะให้เข้ารับพระราชทานรางวัลเหรียญทองคำ”คนขยัน”จำนวน 13 ราย วันที่เข้ารับรางวัลรู้สึกดีใจมากจนบอกไม่ถูก และล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ยังเสด็จฯ มาเยี่ยมชมโรงทอผ้าด้วย”
นายทวี เกษางาม ประธานกลุ่มศิลปินเมืองหัวหินผู้วาดภาพถวายเพื่อประดับตกแต่ง ภายในที่ประทับรับรอง กล่าวว่า เมื่อ10 ปีที่แล้วนายประสงค์ พิทูรกิจจา ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในขณะนั้นได้ติดต่อเข้ามาเพื่อให้ตกแต่งชั้น 10 ของอาคารใหม่โรงพยาบาลหัวหินที่จะใช้เป็นเขตพระราชฐาน ประกอบด้วยห้องประทับ ห้องเสวย ห้องนั่งเล่น ซึ่งรู้สึกเป็นเกียรติและถือเป็นมงคลชีวิตเป็นอย่างมาก ที่ได้มีโอกาสวาดภาพเพื่อนำไปประดับที่พระราชฐาน จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาการตกแต่งที่เขตพระราชฐานของโรงพยาบาลศิริราช และไปยังสถานที่ต่างๆในอำเภอหัวหินที่พระองค์ท่านประทับใจ โดยวาดภาพออกมาเป็นทิวทัศน์ของสถานที่ต่างๆ ใช้เวลาวาดภาพทั้งหมด 1 ปี และนำไปตกแต่งในเขตพระราชฐานชั้น 10 ของโรงพยาบาลหัวหิน.-สำนักข่าวไทย