กรุงเทพฯ 16 ก.พ.- “สุวัจน์” วอนทุกพรรคร่วมมือให้ข้อเสนอแนะสร้างความปรองดอง ลืมอดีต ลดเงื่อนไขที่นำไปสู่ทางตันทางการเมือง เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้ง ได้รัฐบาลที่ชอบธรรม
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เปิดเผยถึงการนำคณะรวม 10 คนแสดงความเห็นต่อคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองวานนี้ (15 ก.พ.)ว่า เชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความตั้งใจจริงในการสร้างความปรองดอง และคิดว่าเป็นโอกาสอันสำคัญ จึงเห็นด้วยกับรัฐบาลที่เริ่มต้นในสิ่งที่ถูกต้อง และอยากเชิญทุกพรรคการเมืองใช้ประสบการณ์ร่วม ให้ความเห็นทุกแง่ทุกมุมเพื่อนำไปสู่การได้ข้อสรุปให้เกิดความปรองดองและเป็นที่ยอมรับ เพื่อปูทางไปสู่บรรยากาศการเลือกตั้ง และการได้รัฐบาลที่ชอบธรรม
“ผมอยากเห็นทุกพรรคการเมืองสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ร่วมมือปฏิบัติตามกฏหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิยุติธรรมและนำไปสู่การยอมรับ ช่วยกันนำเสนอนโยบายที่ดี เหมาะสม ที่ยั่งยืนต่อการพัฒนาประเทศ ให้ความเคารพต่อการตัดสินใจของประชาชน ยอมรับผลการเลือกตั้ง และถึงเวลาแล้วที่ทุกพรรคการเมืองต้องลืมอดีต ลดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เป็นเงื่อนไขจะนำไปสู่ทางตันทางการเมือง หากจะเกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ควรใช้เวทีสภาแก้ไขปัญหา” นายสุวัจน์ กล่าว
ด้านนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า พรรคเสนอว่าควรต้องสร้างความปรองดองก่อนการเลือกตั้ง โดยยึดหลักของความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านและความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ คสช.ควรจัดให้มีการเลือกตั้งตามโรดแมปที่วางเอาไว้ และควรมีการตกลงร่วมกันให้ทุกพรรคการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้งและยอมรับผลการเลือกตั้ง เมื่อหลังเลือกตั้งแล้วทุกพรรคต้องทำหน้าที่โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญและไม่สร้างเงื่อนไขใด ๆ ที่จะนำไปสู่ภาวะทางตันในอดีต และควรใช้สภาในการแก้ไขปัญหาของสภา เชื่อว่าจะทำให้การเมืองราบรื่น
หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า พรรคตอบคำถามทั้ง 10 ข้อที่เกี่ยวกับการสร้างความปรองดอง ที่เห็นควรให้ลดความเหลื่อมล้ำ และความขัดแย้ง ทั้งปฏิรูปที่ดินทำกิน ปฏิรูปทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งควรปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้ ขณะเดียวกันควรปฏิรูปการศึกษาเพื่อให้เด็กมีคุณภาพ คิดเป็นทำเป็น ต้องมีการปฏิรูปอุตสาหกรรมโดยปรับกลยุทธให้เข้าสู่ยุคดิจิตัล ปฏิรูปด้านเกษตรกรรม เพื่อพัฒนาให้เกษตรกรมีรายได้ มีคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น จะช่วยลดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยได้
นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ควรมีศาลพิเศษตัดสินคดีทุจริตโดยเฉพาะ ทุกฝ่ายต้องขึ้นศาลเดียวกันทั้งหมด เพื่อให้กระบวนการพิจารณาคดีทุจริตเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเกิดความเท่าเทียมกัน สำหรับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้น จะต้องได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ควรเปิดเวทีสาธารณะรับฟังความเห็น เพื่อขับเคลื่อนต่อไป ส่วนข้อเสนอเรื่องการนิรโทษกรรมนั้น พรรคชาติพัฒนา เห็นว่าควรนำหลักความยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่านกับหลักความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้ในการแก้ไขปัญหา และต้องยึดหลักของการรับผิดก่อนจึงจะนำไปสู่การให้อภัยกันได้.-สำนักข่าวไทย