ขอนแก่น 22 ก.พ.-คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปฏิเสธคืนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ กลับไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดบ้านไร่ หลังปีหน้าจะสิ้นสุดการเป็นครูใหญ่ของนักศึกษาแพทย์ แต่พร้อมแก้ไขบางจุดให้ตรงตามพินัยกรรม ขณะที่คณะกรรมการวัดบ้านไร่ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องของผลประโยชน์
เกือบ 2 ปีของการมรณภาพ 9 เดือนของการเป็นครูใหญ่ของนักศึกษาสายการแพทย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ล่าสุด มีประเด็นให้สังคมพูดถึงหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา กันอีกครั้ง เมื่อยายคำมั่น วงษ์กาญจนรัตน์ น้องสาวหลวงพ่อคูณ และคณะกรรมการวัดบ้านไร่ ยื่นหนังสือขอสรีระสังขารหลวงพ่อกลับไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดบ้านไร่ เพื่อให้ลูกหลานในพื้นที่ทำบุญถวายเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมท้วงติงว่า การที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นเตรียมใช้พุทธมณฑลอีสานเป็นสถานที่ฌาปนกิจ ไม่ตรงกับพินัยกรรมที่ระบุให้เป็นวัด และไม่มีตัวแทนเข้าร่วมประชุมเตรียมการ
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำพินัยกรรมที่หลวงพ่อคูณทำไว้เมื่อปี 2543 มาชี้แจงกับสื่อมวลชน โดยเฉพาะข้อ 3 ที่ระบุให้ทำพิธีเผาเสร็จสิ้นที่ จ.ขอนแก่น ที่ญาติติงว่า สถานที่เตรียมการไม่ใช่วัดนั้น ตนในฐานะผู้จัดการศพ พร้อมรับฟัง และยินดีปรับให้ตรงตามพินัยกรรม แต่ไม่สามารถคืนร่างให้ได้ เพราะขัดเจตนารมณ์ของหลวงพ่อ ส่วนการประชุมเตรียมการสถานที่ฌาปนกิจ เป็นอำนาจของผู้จัดการศพพิจารณาตามความเหมาะสม
ส่วนบรรยากาศที่วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ไม่คึกคักเหมือนตอนที่หลวงพ่อคูณยังอยู่ รองประธานคณะกรรมการวัดบ้านไร่ไม่อยากให้สังคมมองว่า เป็นเรื่องของผลประโยชน์ ยอมรับว่าอาจขัดพินัยกรรมที่หลวงพ่อทำไว้ พวกตนเพียงอยากให้สรีระสังขารของท่านกลับบ้านเกิด ชาวนครราชสีมาคนนี้อยากให้ทุกฝ่ายทำตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อ แต่ก็ยอมรับได้ หากสรีระสังขารหลวงพ่อได้กลับบ้านเกิด
การขอนำสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ กลับไปฌาปนกิจที่บ้านเกิด ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่เคยส่งหนังสือลักษณะเดียวกันนี้มาต้นปีที่แล้ว แต่อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นปฏิเสธ โดยยึดเจตนารมณ์ตามพินัยกรรม ขณะที่สรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ จะสิ้นสุด 2 ปีของการเป็นครูใหญ่ในเดือนพฤษภาคมปีหน้า และจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษในช่วงปลายปีเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย