เร่งหาตัวคนขับรถเก๋งชนนศ.สาวแล้วหลบหนี

 


บุรีรัมย์ 23 ก.พ.- ตำรวจเร่งตรวจสอบวงจรปิดใกล้เคียง และให้ผู้เชี่ยวชาญขยายภาพป้ายทะเบียนรถเก๋งที่เฉี่ยวชนนักศึกษาสาวจนได้รับบาดเจ็บ เพื่อตามล่ามาดำเนินคดี

24-2-2560 0-01-49 24-2-2560 0-02-12


ความคืบหน้ากรณีที่มีการแชร์คลิปภาพวงจรปิด เหตุการณ์รถเก๋งเลี้ยวตัดหน้าชน รถจักรยานยนต์ของ น.ส.อัฐริยา บุญปก อายุ 21 ปี นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง บริเวณปากทางเข้า-ออกศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา จนนักศึกษาสาวกระเด็นหลายตลบได้รับบาดเจ็บ แต่รถเก๋งคันดังกล่าวกลับไม่สนใจลงมาดูหรือช่วยเหลือ กลับขับรถหนีเข้าไปในศูนย์ราชการเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้ น.ส.อัฐริยา นอนสลบอยู่กลางถนน

ขณะนี้ น.ส.อัฐริยา นักศึกษาที่บาดเจ็บก็ยังนอนรักษาอยู่ตึกศัลยกรรมหญิงชั้น 3 โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ โดยยังไม่มีกำหนดว่าจะได้ออกจาก รพ.วันไหน เนื่องจากต้องตรวจเช็กสมองที่ได้รับการกระทบกระเทือนให้แน่ใจอีกครั้ง อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้แม้เหตุการณ์จะผ่านไปถึง 4 วันแล้ว แต่คนขับรถเก๋งคันดังกล่าวก็ยังไม่มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือแสดงความรับผิดชอบกับครอบครัวผู้เสียหายแต่อย่างใด

ขณะที่ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ฤทธิ์ไธสง รอง ผกก.สอบสวนหัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดแล้วพบว่ารถเก๋งมีการเปิดไฟเลี้ยวจริง แต่ไม่ได้ชิดซ้ายเข้าเลนในก่อนจะเลี้ยว ทำให้รถจักรยานยนต์ที่ขับตามมาไม่ทันระวังถูกกระเด็นได้รับบาดเจ็บ จากนั้นรถเก๋งก็ขับเข้าไปในศูนย์ราชการโดยไม่หยุดช่วยเหลือหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากภาพที่ปรากฏคนขับรถเก๋งจะเข้าข่ายความผิดข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและไม่หยุดช่วยเหลือแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงโดยทันที หรือหลบหนี” ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ


เบื้องต้นจากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค รุ่นเตารีด สีบรอนด์ แต่ทะเบียนไม่ชัดเจน จึงยังไม่ทราบว่าเจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในศูนย์ราชการหรือบุคคลอื่นที่มาติดต่อราชการหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องทำการตรวจสอบวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียง พร้อมจะนำภาพให้ผู้เชี่ยวชาญทำการดึงขยายภาพเพื่อให้สามารถมองเห็นทะเบียนได้ชัดเจน ซึ่งขณะนี้ตำรวจเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ทั้งผู้บังคับบัญชาก็ได้กำชับให้เร่งติดตามคดีดังกล่าวด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย