ก.คลัง 7 มี.ค. – เก็บภาษีหุ้นชินฯ ไม่ยุติ หลังที่ประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรมีมติไม่ขยายเวลาออกหมายเรียกหลังเวลาล่วงเลย 5 ปี ขณะที่ สตง.ทำหนังสือให้ยืดระยะเวลาจัดเก็บภาษีหุ้นชิน ไม่เช่นนั้นโดนมาตรา 157
นายประภาส คงเอียด รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร กล่าวว่า ได้พิจารณาตามข้อเสนอของกรมสรรพากรเกี่ยวกับการขยายเวลาการออกหมายเรียกเก็บภาษีเงินได้จากผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีภายใน 5 ปี เพราะหากกรมสรรพากรไม่ออกหมายเรียกจะทำการประเมินการเสียภาษีไม่ได้ ที่ประชุมหารืออย่างกว้างพิจารณาแล้วว่าจากมาตรา 3 อัฎฐ ประมวลรัษฎากร กำหนดว่า หากมีคดีความทางภาษีระยะเวลา 10 ปี กรมสรรพากรต้องออกหมายเรียกภายใน 5 ปี หากพ้นระยะเวลา 5 ปี แล้ว จะไม่สามารถออกหมายเรียกได้
ที่ประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรเห็นชอบร่วมกันว่า จากมาตรา 3 อัฎฐ ประมวลรัษฎากร ไม่สามารถขยายเวลาการออกหมายเรียกได้ จากนั้นจะนำมติดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้เป็นการทั่วไปและดำเนินการต่อทุกคดีทางภาษี ส่วนการเรียกเก็บภาษีจากหุ้นชินฯ เป็นเรื่องของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ โดยต้องดูว่าการจัดเก็บภาษีมีความชัดเจนหรือไม่ และการตัดสินวันนี้ ไม่ส่งผลโดยตรงต่อการจัดเก็บภาษีหุ้นชินฯ ได้หรือไม่ เนื่องจากการประเมินเสียภาษีหุ้นของนายทักษิณ ยังไม่มีองค์กรตัดสินชัดเจนว่าควรเสียภาษีหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปว่าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งได้รับการยกเว้นภาภาษี หรือเป็นการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะที่การเสียภาษีของโอ๊ค-เอม ศาลตัดสินแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องต้องรับภาระภาษีดังกล่าว
โดยที่ประชุมวันนี้ไม่ได้พิจารณาการเสียภาษีกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากกรณีการขายหุ้น บมจ.อินทัช (INTUCH) หรือเดิม คือ บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) ให้แก่บริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ (พีทีอี) จำกัด ผ่านบริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ รวมเป็นเงินการซื้อหุ้นกว่า 73,000 ล้านบาท เพื่อประเมินมูลค่าภาษีประมาณ 16,000 ล้านบาท จากกำหนดเดิมสิ้นสุดอายุความวันที่ 31 มีนาคม 2560
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า สตง.ทำหนังสือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและกรมสรรพากรให้พิจารณาขยายเวลาจัดเก็บภาษีออกไป จากกำหนดเดิมสิ้นสุดอายุความวันที่ 31 มีนาคม 2560 เพื่อให้กรมสรรพากรมีเวลาออกหมายเรียกเก็บภาษีเงินได้จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากกรณีการขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) หลังประเมินมูลค่าภาษีประมาณ 16,000 ล้านบาท เพราะหากปล่อยคดีให้หมดอายุความจะดำเนินการจัดเก็บภาษีไม่ได้ และหากไม่ขยายเวลาออกไป คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรต้องมีเหตุผลรองรับ เนื่องจาก สตง.พิจารณาจากมาตรา 3 อัฎฐ ประมวลรัษฎากร สามารถขยายเวลาออกไปสำหรับกรณีใดกรณีหนึ่ง ซึ่งมีเหตุสมควรต่อการจัดเก็บภาษี เพราะมีมูลค่าจัดเก็บภาษีจำนวนมาก เพราะหากผู้เกี่ยวข้องและกรมสรรพากรไม่ดำเนินการจัดเก็บภาษีและขยายเวลาออกอาจต้องมีความผิดมาตรา 154,157 ประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากละเลยการปฏิบัติหน้าที่ มีโทษทั้งจำคุกสูงสุด 10 และปรับ สตง.ในฐานะผู้ติดตามและตรวจสอบจึงทำหน้าที่ เพื่อนำเงินภาษีดังกล่าวมาใช้ประโยชน์.-สำนักข่าวไทย