ทำเนียบฯ 18 พ.ย.-รองนายกรัฐมนตรี กำชับแม่ทัพภาคที่ 4 เพิ่มความระมัดระวังในพื้นที่ให้เข้มขึ้น ดึงประชาชนเป็นแนวร่วมให้ความร่วมมือ คาดเร็วนี้จะได้ผลเป็นรูปธรรมในการแก้ปัญหาคนสองสัญชาติ หลังได้หารือกับ รมว.กลาโหมมาเลเซีย ที่รับปากจะแก้ปัญหาร่วมกัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการหารือเรื่องการพัฒนายุทธศาสตร์ความมั่นคงในอนาคต ส่วนปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดปัตตานีเมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ยอมรับว่ารู้การข่าวมาก่อนแล้ว แต่ได้ฝากเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นกว่านี้ เพราะรู้กันอยู่ว่าฝ่ายที่ดำเนินการกำลังก่อกวนเชิงรุกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าสามารถดำเนินการในพื้นที่ต่าง ๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ แต่ก็สามารถทำได้เพียงพื้นที่นอกเมือง ดังนั้นขอฝากไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องช่วยกันให้มากกว่านี้ ส่งคนเข้าไปดูแลให้ความปลอดภัยกับประชาชนให้มากขึ้น
“ไม่อยากจะตำหนิ ที่ทำดีอยู่แล้ว แต่ต้องให้มากขึ้นกว่านี้ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น ให้ประชาชนช่วยชี้เบาะแสแจ้งเตือนในการดำเนินการทั้งหมด เพราะเรามีเจ้าหน้าที่การข่าวดำเนินการอยู่แล้ว รายละเอียดต้องประสานกับประชาชนในพื้นที่ให้มากขึ้น ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยและไม่เกี่ยวข้องกับการสับเปลี่ยนกำลังอยู่บริเวณรอบนอก แต่ยืนยันว่าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ถ้าสามารถพูดคุยและได้รับความร่วมมือ กับประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นผู้ประสานงานเดินหน้าการแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรมจะดีขึ้นแน่นอน” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ไปร่วมประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีโอกาสพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย เรื่องการดูแลความสงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ว่าจะทำอย่างไรให้เป็นรูปธรรม เพราะมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกเรื่องการพูดคุย จะมีการตั้งคณะกรรมการให้เป็นรูปธรรม ที่จะสามารถดำเนินการได้ในช่วงระยะเวลาใด ซึ่งได้มีการหารือกันในระดับคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC เพื่อให้รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เกิดความชัดเจนว่าเราสามารถทำให้เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยอาศัยมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก ซึ่งมาเลเซียรับไปที่จะดำเนินการ
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องปัญหาคนสองสัญชาติ ได้มีการพูดคุยและตั้งคณะกรรมการร่วมกันแล้วว่าจะดำเนินการให้เป็นรูปธรรมอย่างไร ทางไทยได้ส่งรายชื่อให้มาเลเซียตรวจสอบแล้ว ถือเป็นความร่วมมือที่มีความก้าวหน้ามาก ส่วนปัญหาของผู้ก่ออาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ รั้วเขตแดน ได้มีการพูดคุยกัน มั่นใจว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมเร็ว ๆ นี้ มาเลเซียให้ความร่วมมือในอนาคตจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับรายชื่อบุคคลสองสัญชาติที่ส่งไป ทางมาเลเซียยังไม่ได้ตอบกลับมา แต่เราอยากให้มีการตั้งคณะทำงานให้เป็นรูปธรรม และมานั่งโต๊ะพิจารณากัน ซึ่งจะเป็นคณะกรรมการที่อยู่ภายใต้การดูแลของ GBC
“นอกจากนี้ที่ประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ไม่ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอให้นายโดนัล ทรัมป์ ได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการและประกาศนโยบายที่ชัดเจน ถึงจะทราบว่านโยบายทางความมั่นคงกับเอเซียจะเป็นไปในทิศทางใด ทั้งนี้ไม่กังวล และไม่ต้องเตรียมรับมืออะไร เนื่องจากว่าที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงก็ดำนเนินการงานด้านความมั่นคงของไทยต่อเนื่องอยู่แล้ว ทั้งเรื่องไซเบอร์และอื่น ๆ” พล.อ.ประวิตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย
