สำนักงานกกต. 9 มี.ค.-กกต. จัดสัมมนารับฟังความเห็นผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพและผู้สูงอายุ กำหนดแนวทางอำนวยความสะดวกการใช้สิทธิเลือกตั้งในอนาคต
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดสัมมนาเพื่อกำหนดแนวทางพัฒนาการจัดที่เลือกตั้งสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ ที่ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นประธานเปิดสัมมนา มีผู้ร่วมสัมมนา 4 ฝ่าย ได้แก่ ผู้แทนสำนักงานกกต. ผู้แทนหน่วยงานสนับสนุนการลงคะแนนของคนพิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ ผู้แทนของกลุ่มคนพิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ และผู้แทนของมูลนิธิเครือข่ายเอเซียเพื่อการเลือกตั้งเสรี(อันเฟรล) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีประสบการณ์ประสานความร่วมมือกับองค์กรจัดการเลือกตั้งทั่วทวีปเอเซีย
นายสมชัย กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้ต้องการให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาช่วยกันกำหนดแนวทางการพัฒนาจัดหน่วยเลือกตั้งสำหรับคนพิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ 1 ปี
ขณะที่เจ้าหน้าที่กกต.กล่าวว่า กกต.ตั้งเป้าหมายขยายการอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพและผู้สูงอายุให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างจังหวัด โดยสำรวจข้อมูลผู้พิการและสถานที่จัดการเลือกตั้งในต่างจังหวัด ซึ่งมีหลายจังหวัดตอบรับมาแล้ว เช่น จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้กกต.ได้แก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ฉบับใหม่ที่เสนอ กรธ. เพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกคนเหล่านี้
นายพงษ์ศักดิ์ จันทร์อ่อน ผู้สังเกตการณ์ประจำประเทศไทยของมูลนิธิอัลเฟรล กล่าวว่า จากการสังเกตการณ์การเลือกตั้งในหลายประเทศพบว่า ประเทศไทยเป็นประเทศต้นแบบการอำนวยความสะดวกผู้พิการและผู้สูงอายุ เนื่องจากบางประเทศไม่ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกเพื่อให้คนกลุ่มคนนี้เข้าถึงสิทธิ ทั้งพบว่าหลายประเทศยังมีปัญหาคล้ายกับประเทศไศไทยคือกฎหมายยังจำกัดสิทธิผู้พิการหรือทุพพลภาพ โดยกฎหมายไทยห้ามผู้วิกลจริตเข้าใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่มีข้อถกเถียง เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวไม่ได้กำหนดขอบข่าย เกี่ยวกับระดับความผิดปกติให้ชัดเจน
“ผมเห็นว่าผู้ที่อยู่ในสภาวะเรียนรู้ได้ ควรเปิดโอกาสให้ใช้สิทธิได้ เช่น ประเทศญี่ปุ่นได้แก้ไขกฎหมายให้ผู้มีปัญหาทางสมองที่อยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวสามารถใช้สิทธิได้ บางประเทศยังจัดคูหาเลือกตั้งในเรือนจำและโรงพยาบาลด้วย
ส่วนตัวแทนผู้พิการ กล่าวว่า จากการออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งพบว่าสถานที่ไม่อำนวยความสะดวก แม้จะจัดอยู่ในชั้น 1 แต่ก็ปัญหาติดฟุตบาธ การเข็นรถวีลแชร์เป็นไปด้วยความลำบาก รวมถึงที่จอดรถไม่เพียงพอ.-สำนักข่าวไทย