“ภูมิธรรม” อำลากลาโหม ทิ้งทวนเซ็นเรือดำน้ำ

กลาโหม 2 ก.ค.- “ภูมิธรรม” เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกลาโหม อำลาตำแหน่ง ขอบคุณที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวทหาร ทิ้งทวนเซ็นเรือดำน้ำ ส่วนกริพเพน รอ รมว.กลาโหม คนใหม่ แจงยังไม่มีรัฐมนตรีว่าการ รอคนเหมาะสม เผยเข้ามหาดไทยศุกร์นี้


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมายังศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เวลา 09.00 น. เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ทั้ง 7 จุด เช่น อารักขเทวสถาน เจ้าพ่อหอกลอง พระบรมรูปหล่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นต้น ซึ่งเป็นการอำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นการอำลาตามสถานการณ์ เพราะได้การโปรดเกล้าฯ แล้ว เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพียงแต่ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ เพราะต้องรอเข้าเฝ้าถวายสัตย์ในวันพรุ่งนี้ หลังจากนั้นจะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษแล้ว ก็คงจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ ซึ่งในฐานะที่อยู่ที่นี่มา 9 เดือน ก็ยังรู้สึกว่าเร็วไปหน่อยกำลังเข้าใจ รับทราบ และเห็นปัญหา เห็นศักยภาพที่จะมาช่วยแก้ปัญหาให้ดีขึ้น ซึ่ง 9 เดือน ที่มาอยู่ก็เข้าใจ และมีส่วนทำงานร่วมกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ทุกอย่างที่เราทำก็ไปในทิศทางที่คิดว่าเป็นประโยชน์หลายเรื่องได้เริ่มก่อให้เห็นโดยเฉพาะการดูแลสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อย และทหารทั้งหมดของกองทัพในเรื่องที่เป็นขวัญกำลังใจ ในฐานะที่กองทัพเป็นด่านแรกที่ต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ และยังช่วยเหลือประชาชน ก็ขอบคุณทุกอย่างที่ได้ช่วยและสนับสนุนมา ดีใจและขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกลาโหม ครอบครัวของทหาร ที่ผ่านมาก็ได้ทำไปแล้วหลายเรื่อง อย่างเรื่องที่ค้างค้างเป็นปัญหา เช่น เรือดำน้ำ ก็เซ็นเข้าไปที่คณะรัฐมนตรีแล้ว รอบรรจุวาระ ไปผ่านรองนายกฝ่ายความมั่นคง ส่วนที่ยังเหลืออยู่ เช่น การทำบ้านพักอาศัย การปรับกำลังพล ซึ่งตนมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งต่างๆ ที่วางไว้น่าจะประสบความสำเร็จได้ เพราะพบว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ มีมายด์เซ็ตที่เข้าใจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นการปรับกำลังพลให้มีขนาดเล็กลง มีประสิทธิภาพ และมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหมาะสมกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในสมัยใหม่ ก็เป็นสิ่งที่จะถูกปูทางและดำเนินการต่อไป โดยเรื่องเหล่านี้ได้คุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในวันที่ประชุมสภากลาโหมแล้ว และทางกลาโหมเองก็คงจะดำเนินการจัดการต่อไป


นอกจากนี้ ยังได้คุยกับพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แล้วว่าอะไรที่ทำอยู่ก็ให้ทำไป ส่วนเรื่องชายแดนกัมพูชาก็ยังไม่ทิ้ง ยังให้หลักการไป คิดว่าจะพยายามถึงที่สุดให้เกิดผลสำเร็จ ตามที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่อยากเห็นการใช้กำลังในการสู้รบ แต่อยากเห็นการจบลงด้วยสถานะเดิมที่เคยมี แต่เรื่องนี้เป็นเรื่อง 2 ฝ่ายต้องใช้เวลาพูดคุย และมีกระบวนการทางกฎหมายระหว่างประเทศที่จะกำหนด

นายภูมิธรรม ยอมรับว่า เรื่องเรือดำน้ำเซ็นเรียบร้อยแล้ว แต่โครงการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน เซ็นไม่ทัน ก็ต้องให้รัฐมนตรีใหม่เข้ามาดำเนินการ ซึ่งเรื่องเรือดำน้ำก็ต้องผ่านรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ก็คือตน เพราะเรื่องนี้เซ็นออกไปแล้วตั้งแต่ก่อนสิ้นเดือนมิถุนายน

ส่วนปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เวลาที่บ้านเมืองมีความสับสนหรือมีความไม่ชัดเจน การก่อความไม่สงบก็จะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งตนมีกรอบที่จะดำเนินการในเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว คงจะเสนอรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และประสานต่อในส่วนต่างๆ ยืนยันจะทำต่อ และบอกพลเอกณัฐพล ไปแล้ว ว่าเรื่องนี้ทำต่อเลย เพราะมันเป็นการรวบรวมความเห็นมาจากหลายหน่วย ทำให้มองในทุกมิติ และเชื่อว่าการแก้ปัญหาครั้งนี้จะมีเรื่องใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยได้ทำ และน่าจะแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นได้และเร็วที่สุด


ส่วนกรณีเว้นว่างตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นเพราะเหตุใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็มีข้อสงสัย ก็เป็นเรื่องความเหมาะสม คงเป็นเรื่องที่ทางราชการไม่อยากจะพูด ก็ถือว่าทำทุกอย่างให้อยู่ในกลไกที่ทุกคนสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่

เมื่อถามย้ำว่า ตำแหน่งนี้เป็นโควตาของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม บอกว่า ที่ผ่านมาเคยเป็นของพรรคเพื่อไทยรับผิดชอบ ตอนนี้เป็นเรื่องที่เราไม่ได้คิดว่าต้องเป็นเพื่อไทยหรือไม่เป็นเพื่อไทย ตอนนี้ที่สำคัญคือรัฐมนตรีกลาโหมที่มีศักยภาพ มีความสามารถ เชื่อมโยงกับเหล่าทัพต่างๆ ได้อย่างดี และสามารถทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศ และทำหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมอย่างสุดความสามารถ

ส่วนที่มีข่าวว่าจะได้รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ในช่วง 3 เดือนนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าข่าวลือที่ยังไม่รู้ ก็อย่าเอามาถามตน เพราะมันลอยๆ แต่ย้ำว่าการตัดสินใจก็ต้องพยายามเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด อย่างตนก็ยังดูด้านดีด้านลบ มนุษย์ไม่มีอะไรที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าตราบใดเข้ามาทำงานได้ ซื่อสัตย์สุจริต ก็ไม่มีปัญหา ถ้าตราบใดทำงานแล้วมีข้อสงสัย ก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์ได้ก็ไม่มีปัญหา พิสูจน์ไม่ได้ก็ต้องรับภาระตามสิ่งที่ตัวเองได้กระทำ

สำหรับการเข้าทำงานในกระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม บอกว่า จะเข้าไปวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม ประมาณ 10.00 น. เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง และพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูง ส่วนการมอบนโยบายคงเป็นตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป แต่เรื่องใหญ่ๆ สำคัญ ตนคิดไว้แล้ว ซึ่งจะพูดคุยให้เข้าใจกันจะได้ทำงานได้อย่างราบรื่น พร้อมย้ำว่าตนยังรับผิดชอบงานความมั่นคงทั้งหมด และเพิ่มเติมคือกระทรวงมหาดไทย-313 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]