“ภูมิธรรม” อำลากลาโหม ทิ้งทวนเซ็นเรือดำน้ำ

กลาโหม 2 ก.ค.- “ภูมิธรรม” เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกลาโหม อำลาตำแหน่ง ขอบคุณที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวทหาร ทิ้งทวนเซ็นเรือดำน้ำ ส่วนกริพเพน รอ รมว.กลาโหม คนใหม่ แจงยังไม่มีรัฐมนตรีว่าการ รอคนเหมาะสม เผยเข้ามหาดไทยศุกร์นี้


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมายังศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เวลา 09.00 น. เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ทั้ง 7 จุด เช่น อารักขเทวสถาน เจ้าพ่อหอกลอง พระบรมรูปหล่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นต้น ซึ่งเป็นการอำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นการอำลาตามสถานการณ์ เพราะได้การโปรดเกล้าฯ แล้ว เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพียงแต่ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ เพราะต้องรอเข้าเฝ้าถวายสัตย์ในวันพรุ่งนี้ หลังจากนั้นจะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษแล้ว ก็คงจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ ซึ่งในฐานะที่อยู่ที่นี่มา 9 เดือน ก็ยังรู้สึกว่าเร็วไปหน่อยกำลังเข้าใจ รับทราบ และเห็นปัญหา เห็นศักยภาพที่จะมาช่วยแก้ปัญหาให้ดีขึ้น ซึ่ง 9 เดือน ที่มาอยู่ก็เข้าใจ และมีส่วนทำงานร่วมกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ทุกอย่างที่เราทำก็ไปในทิศทางที่คิดว่าเป็นประโยชน์หลายเรื่องได้เริ่มก่อให้เห็นโดยเฉพาะการดูแลสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อย และทหารทั้งหมดของกองทัพในเรื่องที่เป็นขวัญกำลังใจ ในฐานะที่กองทัพเป็นด่านแรกที่ต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ และยังช่วยเหลือประชาชน ก็ขอบคุณทุกอย่างที่ได้ช่วยและสนับสนุนมา ดีใจและขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกลาโหม ครอบครัวของทหาร ที่ผ่านมาก็ได้ทำไปแล้วหลายเรื่อง อย่างเรื่องที่ค้างค้างเป็นปัญหา เช่น เรือดำน้ำ ก็เซ็นเข้าไปที่คณะรัฐมนตรีแล้ว รอบรรจุวาระ ไปผ่านรองนายกฝ่ายความมั่นคง ส่วนที่ยังเหลืออยู่ เช่น การทำบ้านพักอาศัย การปรับกำลังพล ซึ่งตนมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งต่างๆ ที่วางไว้น่าจะประสบความสำเร็จได้ เพราะพบว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ มีมายด์เซ็ตที่เข้าใจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นการปรับกำลังพลให้มีขนาดเล็กลง มีประสิทธิภาพ และมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหมาะสมกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในสมัยใหม่ ก็เป็นสิ่งที่จะถูกปูทางและดำเนินการต่อไป โดยเรื่องเหล่านี้ได้คุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในวันที่ประชุมสภากลาโหมแล้ว และทางกลาโหมเองก็คงจะดำเนินการจัดการต่อไป


นอกจากนี้ ยังได้คุยกับพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แล้วว่าอะไรที่ทำอยู่ก็ให้ทำไป ส่วนเรื่องชายแดนกัมพูชาก็ยังไม่ทิ้ง ยังให้หลักการไป คิดว่าจะพยายามถึงที่สุดให้เกิดผลสำเร็จ ตามที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่อยากเห็นการใช้กำลังในการสู้รบ แต่อยากเห็นการจบลงด้วยสถานะเดิมที่เคยมี แต่เรื่องนี้เป็นเรื่อง 2 ฝ่ายต้องใช้เวลาพูดคุย และมีกระบวนการทางกฎหมายระหว่างประเทศที่จะกำหนด

นายภูมิธรรม ยอมรับว่า เรื่องเรือดำน้ำเซ็นเรียบร้อยแล้ว แต่โครงการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน เซ็นไม่ทัน ก็ต้องให้รัฐมนตรีใหม่เข้ามาดำเนินการ ซึ่งเรื่องเรือดำน้ำก็ต้องผ่านรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ก็คือตน เพราะเรื่องนี้เซ็นออกไปแล้วตั้งแต่ก่อนสิ้นเดือนมิถุนายน

ส่วนปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เวลาที่บ้านเมืองมีความสับสนหรือมีความไม่ชัดเจน การก่อความไม่สงบก็จะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งตนมีกรอบที่จะดำเนินการในเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว คงจะเสนอรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และประสานต่อในส่วนต่างๆ ยืนยันจะทำต่อ และบอกพลเอกณัฐพล ไปแล้ว ว่าเรื่องนี้ทำต่อเลย เพราะมันเป็นการรวบรวมความเห็นมาจากหลายหน่วย ทำให้มองในทุกมิติ และเชื่อว่าการแก้ปัญหาครั้งนี้จะมีเรื่องใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยได้ทำ และน่าจะแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นได้และเร็วที่สุด


ส่วนกรณีเว้นว่างตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นเพราะเหตุใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็มีข้อสงสัย ก็เป็นเรื่องความเหมาะสม คงเป็นเรื่องที่ทางราชการไม่อยากจะพูด ก็ถือว่าทำทุกอย่างให้อยู่ในกลไกที่ทุกคนสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่

เมื่อถามย้ำว่า ตำแหน่งนี้เป็นโควตาของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม บอกว่า ที่ผ่านมาเคยเป็นของพรรคเพื่อไทยรับผิดชอบ ตอนนี้เป็นเรื่องที่เราไม่ได้คิดว่าต้องเป็นเพื่อไทยหรือไม่เป็นเพื่อไทย ตอนนี้ที่สำคัญคือรัฐมนตรีกลาโหมที่มีศักยภาพ มีความสามารถ เชื่อมโยงกับเหล่าทัพต่างๆ ได้อย่างดี และสามารถทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศ และทำหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมอย่างสุดความสามารถ

ส่วนที่มีข่าวว่าจะได้รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ในช่วง 3 เดือนนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าข่าวลือที่ยังไม่รู้ ก็อย่าเอามาถามตน เพราะมันลอยๆ แต่ย้ำว่าการตัดสินใจก็ต้องพยายามเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด อย่างตนก็ยังดูด้านดีด้านลบ มนุษย์ไม่มีอะไรที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าตราบใดเข้ามาทำงานได้ ซื่อสัตย์สุจริต ก็ไม่มีปัญหา ถ้าตราบใดทำงานแล้วมีข้อสงสัย ก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์ได้ก็ไม่มีปัญหา พิสูจน์ไม่ได้ก็ต้องรับภาระตามสิ่งที่ตัวเองได้กระทำ

สำหรับการเข้าทำงานในกระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม บอกว่า จะเข้าไปวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม ประมาณ 10.00 น. เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง และพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูง ส่วนการมอบนโยบายคงเป็นตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป แต่เรื่องใหญ่ๆ สำคัญ ตนคิดไว้แล้ว ซึ่งจะพูดคุยให้เข้าใจกันจะได้ทำงานได้อย่างราบรื่น พร้อมย้ำว่าตนยังรับผิดชอบงานความมั่นคงทั้งหมด และเพิ่มเติมคือกระทรวงมหาดไทย-313 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 25 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ และภาคกลาง มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร […]

นายกฯ นำ ครม. แถลงผลประชุมนัดพิเศษ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – นายกฯ นำ ครม. แถลงผลประชุมนัดพิเศษ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน เศรษฐกิจ-ความมั่นคง-ภัยพิบัติ-สังคม เข้มปราบยา-พนันออนไลน์ ย้ำรัฐบาลนี้ไม่กาสิโน ลั่นทำงานไม่มีวันหยุด อาจประชุม ครม. มากกว่าสัปดาห์ละครั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรีทั้ง 35 คน แถลงผลการประชุม ครม.นัดพิเศษ ว่า ตนและคณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมนัดพิเศษเป็นครั้งแรก ซึ่งได้มีการรับทราบถึงวาระสำคัญ ดังนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะทำการแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งเรากำลังรอคำยืนยันจากประธานรัฐสภาอยู่ คาดว่าต้นสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบนโยบายของรัฐบาล มีสาระสำคัญ คือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจ การลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ผลักดันโครงการคนละครึ่ง ลดค่าเดินทาง ค่าขนส่ง และค่าพลังงาน เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีค่าครองชีพ มีรายจ่ายลดลง นอกจากนั้น ในด้านพลังงาน จะสนับสนุนประชาชนได้ใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น สะดวกขึ้น […]

สีสันรัฐมนตรีรวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร

24 ก.ย. – ทำเนียบกลับมาคึกคัก หลังรัฐมนตรีมารวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนได้เห็นตัวรัฐมนตรี และครบทั้งคณะ งานนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสัน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.ถวายสัตย์ฯ

ทำเนียบ 24 ก.ย.-นายกฯ ปลื้มปีติเสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ลั่นพร้อมทำงานสุดความสามารถ สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรีเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล หลังจากเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ ที่ตึกบัญชาการ 1 ทันทีที่มาถึง ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราโชวาทอย่างไรบ้าง โดยนายอนุทิน กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลอ ว่า คณะรัฐมนตรีทุกคนได้รับพระราชทานพร และพระบรมราโชวาท ตนเชื่อว่า คณะรัฐมนตรีทุกท่านมีความปลื้มปีติ และจะต้องทำงานสนองพระเดชพระคุณ และสนองพระมหากรุณาธิคุณอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต สุดสมองของแต่ละท่านที่มีอยู่ เป็นมงคลสูงสุดที่พวกเราได้รับ ผู้สื่อข่าวกระเซ้านายกฯ ว่า ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ นายอนุทิน ยิ้ม และพยักหน้ารับ ก่อนย้ำว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สามัญชนอย่างตนพึงได้รับ จะไม่มีทางทำอะไรนอกจากทำคุณงามความดีให้กับประเทศและประชาชน ตามพระราชดำรัสที่ได้รับสั่งไว้ เมื่อถามว่า ยอมสละชีวิตได้ทุกอย่างเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ ซึ่งทำมานานแล้ว เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม”.-319.-สำนักข่าวไทย