กรุงเทพฯ 27 ก.พ. – รัฐมนตรีคมนาคมเตรียมเรียกบอร์ด รฟท.รับทราบแนวทางการทำงาน ขณะที่รักษาการผู้ว่าฯ รฟท.ชี้แจงประมูลโครงการรถไฟทางคู่โปร่งใส
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เร็ว ๆ นี้จะเรียกคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มารับทราบแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะนโยบายสำคัญของกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับงานระบบรางที่จะดำเนินการหลังจากนี้
ด้านนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง รักษาการผู้ว่าฯ รฟท. ชี้แจงกรณีการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 โครงการ โดยมีประเด็นการเลื่อนประกาศรายชื่อผู้รับจ้างที่มีสิทธิเสนอราคาออกไปนั้น เนื่องจาก รฟท.กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด เนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 5 โครงการ เป็นโครงการขนาดใหญ่ มีมูลค่าสูง จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้มีความโปร่งใส
สำหรับการกำหนดราคากลางรถไฟทางคู่ทั้ง 5 โครงการนั้น รฟท.ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาที่มีความรู้ความสามารถและมีเชี่ยวชาญในการจัดทำราคากลาง และมีคณะกรรมการพิจารณาราคากลางของ รฟท.กำหนดราคากลางตามระเบียบการรถไฟแห่งประเทศไทยว่าด้วยการจ้าง พ.ศ.2544 โดยมีการสืบราคาเหล็กรางรถไฟ UIC 54 E1จากผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายทั้งญี่ปุ่น จีน และไทย 5 ราย และคณะกรรมการฯ พิจารณาเลือกราคาที่สืบได้ต่ำสุดเป็นราคากลาง
ส่วนการประมูลก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 5 โครงการ เลือกที่จะดำเนินการแต่ละโครงการเป็นสัญญาใหญ่ หากมีการแบ่งสัญญาก่อสร้างออกเป็นตอน ๆ ตามระยะทางจะทำให้มูลค่าโครงการโดยรวมเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ (PMC) เพิ่ม ค่าก่อสร้างการวางรางเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องสร้างโรงเชื่อมรางเพิ่มตามจำนวนของสัญญา ค่าดำเนินการของผู้รับจ้างเพิ่มขึ้น เป็นต้น
นอกจากนี้ จะทำให้โครงการมีความเสี่ยงมากขึ้น หากตอนใดมีความล่าช้าจะส่งผลกระทบต่อความสำเร็จของโครงการทั้งโครงการ โดยการบริหารโครงการก่อสร้างที่มีผู้รับจ้างหลายรายมีความยุ่งยากอาจส่งผลกระทบต่อการบริหารการเดินรถในช่วงระหว่างก่อสร้าง การแยกสัญญาเป็นตอน ๆ ผู้รับจ้างอาจเลือกใช้ระบบรางรถไฟ และระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ต้องมีการบริหารจัดการ spare part ที่ยุ่งยากมากขึ้น เนื่องจากมีอุปกรณ์ที่หลากหลาย, กรณีแบ่งสัญญาก่อสร้างออกเป็นสัญญางานโยธา / งานทางรถไฟ / งานอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม มูลค่าโครงการโดยรวมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีค่าดำเนินการเพิ่มขึ้น เช่น ค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ (PMC) ค่าดำเนินการของผู้รับจ้าง เป็นต้นระยะเวลาการก่อสร้างนานขึ้น เนื่องจากการก่อสร้างงานทางรถไฟและงานอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ต้องรอให้สัญญางานโยธาแล้วเสร็จและส่งมอบพื้นที่ก่อน หากมีการดำเนินการสองสัญญาพร้อมกันในพื้นที่เดียวกันจะมีความยุ่งยากมาก หากมีการร้องเรียนหรือมีปัญหาในขั้นตอนของการจัดจ้างในสัญญางานทางรถไฟ หรืองานอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ซึ่งส่งผลให้สัญญาดังกล่าวเริ่มช้ากว่าแผน จะส่งผลกระทบต่อความล่าช้าของโครงการ ทั้งนี้ รฟท.เคยประสบปัญหาจากการแยกสัญญาก่อสร้างรถไฟแล้วในอดีต จึงกำหนดให้ดำเนินการเป็นสัญญาใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการชี้แจงของรักษาการผู้ว่าฯ รฟท. ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นการที่โครงการรถไฟทางคู่ไม่มีซอยโครงการออกเป็นตามระยะทางแต่ละเส้นทาง จากทั้งหมด 5 เส้นทาง โดยเรื่องนี้นายอาคม กล่าวยอมรับว่า การซอยโครงการออกเป็นตามระยะทางแต่ละเส้นทางมีโอกาสทำให้มูลค่าโครงการสูงขึ้น รวมทั้งมีความเสี่ยงหากแต่ละโครงการมีผู้รับเหมาหลายราย .-สำนักข่าวไทย