อธิบดีสรรพสามิตยืนยันโครงสร้างภาษีใหม่ไม่กระทบผู้บริโภค

กรมสรรพสามิต 28 ก.พ. – อธิบดีกรมสรรพสามิตยืนยันโครงสร้างภาษีใหม่ ขยับเพียงเพดานรองรับ 20 ปีข้างหน้า ส่วนอัตราจัดเก็บภาษีจริงต้องให้รัฐบาลแต่ละช่วงพิจารณา ยืนยันไม่ให้กระทบผู้บริโภคจากฐานปัจจุบัน


นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า  ร่าง พ.ร.บ.สรรพสามิตฉบับใหม่ผ่านความเห็นชอบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว จะมีผลบังคับใช้ 180 วัน หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นกรมสรรพสามิตต้องทยอยเสนอกฎหมายลูกอีก 80 ฉบับ  เพื่อให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาอัตราจัดเก็บภาษีจริง หลังจากนั้นกรมฯ ต้องประกาศกฎหมายลูกอีก 80 ฉบับ  ยืนยันโครงสร้างภาษีใหม่ในการเสนอกฎหมายลูกจัดเก็บภาษีสรรพสามิตที่ต้องปรับเปลี่ยนสินค้า 16 รายการ และบริการอีก 5 ประเภท  เป็นการปรับเพดานรองรับ  20 ปีข้างหน้า  ไม่ใช่เป็นการกำหนดอัตราภาษีที่ต้องจัดเก็บจริงในปัจจุบัน   เนื่องจากการจัดเก็บภาษีจริงต้องให้รัฐบาลบริหารแต่ละช่วงพิจารณาการจัดเก็บสอดคล้องกับค่าเงินบาท ค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ เพื่อให้สอดคล้องตามสถานการณ์แต่ละช่วง โดยที่ประชุม ครม.รัฐบาลปัจจุบันย้ำว่าโครงสร้างภาษีใหม่ต้องไม่กระทบผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าต่างจากปัจจุบัน

นายสมชาย  กล่าวว่า แนวคิดการกำหนดเพดานตามโครงสร้างภาษีใหม่ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับปัจจุบันรอประกาศบังคับใช้  กำหนดสัดส่วนภาระภาษีใกล้เคียงกับภาระภาษีปัจจุบัน  เน้นการอำนวยความสะดวก ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ลดปัญหาการสำแดงราคานำเข้าจากต่างประเทศแตกต่างกัน มุ่งเน้นหลักการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค ทั้งเรื่องแอลกอฮอล์  ระดับความหวานของสินค้า การปล่อยมลภาวะออกสู่ระบบ เช่น สุราราคาถูกและระดับแอลกอฮอล์สูงต้องมีภาระภาษีสูงขึ้น  สำหรับวิธีการคำนวณภาษีสำหรับสินค้าสุรา เบียร์ และไวน์ เน้นระบบแบบผสม  โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบเพียงเล็กน้อยจากวิธีปัจจุบัน คือ อัตราจัดเก็บใหม่เท่ากับอัตราตามมูลค่าบวกด้วยอัตราตามปริมาณ (ดีกรีแอลกอฮอล์)


ดังนั้น  โครงสร้างภาษีใหม่ ซึ่งได้เปลี่ยนฐานจากคำนวณราคาหน้าโรงงานหรือราคาขายส่งสุดท้าย  เปลี่ยนเป็นราคาขายปลีกแนะนำ  โดยราคาสินค้าปลีกแนะนำภาคเอกชนต้องแจ้งมายังกรมสรรพสามิต จากนั้นจะนำกฎหมายซึ่งกำหนดมาตรฐานในการคำนวณเข้าไปตรวจสอบว่าเอกชนได้ส่งราคาแนะนำมาให้ตรงตามข้อกำหนดหรือต่ำกว่าความจริงหรือไม่

สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมสรรพสามิตแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สุรากลั่น มีระดับแอลกอฮอล์หรือปริมาณแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ (ดีกรี) ตั้งแต่ 28-45 ดีกรี อีกประเภท คือ สุราแช่  ประกอบด้วย  เบียร์มีระดับแอลกอฮอล์ 3-7 ดีกรี ส่วนไวน์มีระดับแอลกอฮอล์ 13-17 ดีกรี  เมื่อสุราแช่ มีระดับแอลกอฮอล์ต่ำกว่าสุรากลั่น จึงกำหนดเพดานอัตราภาษีตามปริมาณสูงขึ้น  เช่น การกำหนดเพดานใหม่ ซึ่งเตรียมเสนอ ครม.พิจารณา เช่น  สุรากลั่น ปรับเพดานการคำนวณภาษีตามมูลค่าสินค้า จากเดิมร้อยละ 60 เหลือร้อยละ 30 ของมูลค่าสินค้า  ส่วนการคำนวณตามปริมาณ (ดีกรี) ปรับจาก 400 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อลิตร

ส่วนสุราแช่ (เบียร์ ไวน์) ปรับฐานคำนวณภาษีตามมูลค่าจากร้อยละ 50 ของมูลค่าสินค้า เหลือร้อยละ 30 ของมูลค่าสินค้า  สำหรับการจัดเก็บตามปริมาณ (ดีกรี) ปรับจาก 2,000 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น  3,000 บาทลิตร   ส่วนการจัดเก็บจริงต้องทยอยเสนอ ครม.พิจารณาอีกครั้ง และเพดานดังกล่าวใช้สำหรับการจัดเก็บในช่วง 20 ปี ไม่ใช่การจัดเก็บขณะนี้ ดังนั้น รายการสินค้าที่เป็นข่าวในปัจจุบันยังไม่เป็นความจริง เนื่องจากต้องใช้อัตราภาษีตามที่ ครม.เห็นชอบนำไปคำนวณตามจากฐานภาษี จึงไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนกกระแสดังกล่าว


ส่วนสินค้าอื่นต้องเสียภาษีสรรพสามิต เช่น น้ำดื่มที่มีความหวานระดับสูง  มีความฟุ่มเฟือย กำหนดเพดานร้อยละ 30 ของมูลค่า ส่วนด้านปริมาณจัดเก็บ 20 บาทต่อลิตร  น้ำโซดา ถือว่าเป็นน้ำที่มีความฟุ่มเฟือย กำหนดเพดานร้อยละ 25 เพิ่มเป็นร้อยละ 30 ของมูลค่าสินค้า หรือด้านมูลค่า 20 บาทต่อลิตร ขณะที่ภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บตามการปล่อยมลภาวะ แต่จะไม่ให้มีภาระภาษีหรือราคารถยนต์เปลี่ยนไปจากเดิม และช่วยลดปัญหารถยนต์เขตฟรีโซนในปัจจุบัน  กรมสรรพสามิตจึงทยอยเสนอกฎหมายลูกให้เสร็จภายใน 6 เดือนหลังจากนี้ เพื่อทันกับการบังคับใช้ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิตและการกำหนดเพดานทุกประเภทได้หารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และเตรียมจัดทำหนังสือทั้งภาษาไทยและอังกฤษ  และจัดเวทีแจงรายละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้ทุกฝ่ายรับทราบแต่ช่วงนี้ต้องรอความชัดเจนการประกาศในราชกิจจานุเบกษา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย