โจรยาบ้าซิ่งเก๋งชนแหลก ตร.กระหน่ำยิงสกัด


ระยอง 18 พ.ย.- ตร.ระยอง ยิงสนั่นไล่จับเครือข่ายยาเสพติด แต่หนีรอดหลังขับรถหนีชนรถชาวบ้านหลายคัน ก่อนจอดรถทิ้งปล่อยตำรวจรวบแฟนสาวพร้อมยาบ้า 10 เม็ด

19-11-2559 0-23-33 19-11-2559 0-24-16


เหตุการณ์ระทึกยิงสนั่นกลางตลาดนัดรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. เมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) บนถนนสายมาบยา ใกล้สี่แยกตลาดนัดลานปูน กลางตลาดเทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวบ้านออกไปเดินจับจ่ายซื้อหาอาหาร ต้องพากันตื่นตระหนกตกใจ เมื่อได้ยิงเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด พร้อมกับเสียงเบิ้ลรถเสียงดังสนั่น ปรากฏว่าเป็นคนไล่ยิงล้อรถยนต์สีบอร์น ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน กย.8637 ระยอง ขณะที่คนขับรถยนต์พยายามจะขับรถเบียดแซงรถยนต์ของชาวบ้าน ที่จอดติดสัญญาณไฟแดงบริเวณสี่แยก พร้อมทั้งเบิ้ลเครื่องยนต์รถเสียงดังสนั่น และขับชนท้ายรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดติดไฟแดงขวางทางเสียหายหลายคัน ก่อนจะขับเบียดแซงหลบหนีไปได้ ในสภาพล้อหน้าด้านขวาแตก และรถพังเสียหาย ซึ่งผู้ต้องหาได้ขับรถหลบหนีเข้าไปจอดทิ้งในซอยแห่งหนึ่ง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนหลบหนีไปได้ โดยปล่อยทิ้งหญิงสาวที่นั่งมาด้วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ชื่อนางสาวกานดา ธรรมศรี อายุ 28 ปี พร้อมกับค้นพบยาบ้าจำนวน 10 เม็ด พร้อมแจ้งข้อหามียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้าไว้ในความครอบครอง ส่วนคนขับรถ หรือผู้ต้องหาที่หลบหนี คือ นายวรชัย กล้วยไม้ ณ อยุธยา อายุ 32 ปี ชาว อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เป็นเครือข่ายยาเสพติด

ก่อนเกิดเหตุระทึกยิงสนั่นหน้าตลาดนัดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.มาบตาพุด ได้วางแผนเพื่อล่อซื้อยาบ้าจาก นายวรชัย และได้นัดหมายให้นำยาบ้ามาส่งให้บริเวณริมถนนสายมาบยา แต่ขณะช่วงที่กำลังนำรถเข้าจอดชิดขอบถนน ปรากฏว่ารถเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ขับมาประกบจอดปิดหน้าและจอดปิดท้าย จึงเกิดไหวตัว ถอยรถยาวออกมา ก่อนที่จะขับหลบหนีไปทางสี่แยกไฟแดง

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดล่อซื้อพยายามวิ่งไล่ และตามไปทันบริเวณใกล้สี่แยกไฟแดง เพราะมีรถของชาวบ้านจอดขวางปิดทางติดไฟแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้ปืนยิงยางล้อรถของพ่อค้ายาบ้าจนแตก แต่พ่อค้ายาบ้ารายนี้ยังไม่ลดละความพยายามที่จะหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ขับรถชนท้ายรถของชาวบ้าน ก่อนที่จะขับเบียดแซงเข้าไปในช่องทาง จนสามารถขับหลบหนีไปทางชุมชนบ้านบน แต่เนื่องจากยางล้อหน้าแตก จึงขับหนีไปไม่ไกล ก่อนที่จะขับหลบหนีเข้าไปในซอย จอดรถทิ้งไว้วิ่งหลบหนีไป โดยทิ้งหญิงสาวไว้ในรถ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไล่ตามไปทันรวบตัวหญิงสาวเอาไว้ได้พร้อมของกลางยาบ้า 10 เม็ด


อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง โดยมีคนวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ในขณะที่ทางตำรวจ สภ.มาบตาพุด ต่างปิดปากเงียบไม่ยอมเปิดเผยชี้แจงข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย