กรุงเทพฯ 5 มี.ค.-โฆษกรัฐบาลเผย เดินหน้าพัฒนาสามเหลี่ยมเศรษฐกิจชายแดนใต้ ตั้งเป้ายกระดับเศรษฐกิจแต่ละจังหวัดปี 60 ขยายตัวมากกว่า 2,000 ล้านบาท ย้ำแก้ปัญหาความไม่สงบต้องมองหลายมิติ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าผลักดันโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ายกระดับคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่และผลักดันให้เศรษฐกิจแต่ละจังหวัด ปี 2560 ขยายตัวมากกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อพื้นที่อำเภอใกล้เคียงด้วย
“รัฐบาลเร่งสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนอย่างน้อย 2 โรงงานที่ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งจะพัฒนาเป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน โดยผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงชีวมวล น้ำมันดีเซล หรือพลังน้ำ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยงกับอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง อาทิ หมู่บ้านไก่เบตง หมู่บ้านปลากือเลาะห์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านคน สร้างรายได้ 2,500 ล้านบาท และเตรียมเปิดท่าอากาศยานแห่งใหม่ต้นปี 2562” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนที่อ.หนองจิก ปัตตานี ได้สนับสนุนให้เกษตรกรทำเกษตรเชิงคู่ เช่น ปลูกข้าวคู่กับปาล์มน้ำมัน หรือปศุสัตว์ สนับสนุนให้เกษตรกรพัฒนาเป็น Smart Farmer สร้าง SMEs เกษตรยุคใหม่ แปรรูปสินค้าเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์ ก้าวสู่การเป็นเมืองต้นแบบเกษตรอุตสาหกรรมก้าวหน้าผสมผสาน สำหรับอ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมืองต้นแบบการค้าชายแดนระหว่างประเทศ ได้นำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาให้บริการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากร และกำลังพิจารณามาตรการทางภาษี เช่น กำหนดให้เป็นเขตปลอดอากร หรือสินค้าปลอดภาษีอากร กระตุ้นการซื้อขาย 4,500 ล้านบาทต่อปี
“นายกรัฐมนตรีเล็งเห็นว่านที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีศักยภาพสูง เนื่องจากมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจและทรัพยากรที่ดี จึงสมควรส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างสูงสุด ภายใต้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างผสมผสานลงตัว นายกรัฐมนตรีย้ำว่า การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ต้องทำหลายมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาความเจริญทางเศรษฐกิจ ยกระดับการศึกษา เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ถูกชักจูงไปในทางที่ผิด กำชับเจ้าหน้าที่นำแนวทางประชารัฐไปประยุกต์ใช้ขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในท้องถิ่น” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย