กฟผ.เตรียมสรุปรายงาน EHIA เสนอ สผ.

กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – กฟผ.เดินหน้าตามขั้นตอน EHIA พร้อมนำความเห็น คชก.และคณะฯ ไตรภาคีประกอบการพิจารณาในรายงานฯ เสนอ สผ.อย่างครบถ้วน ย้ำถ่านหินเป็นทางออกสู่การแก้ปัญหาวิกฤติพลังงานภาคใต้ 


นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี  รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงการดำเนินงานโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่  ในประเด็นที่สังคมให้ความสนใจในเรื่องการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ว่า กฟผ.นำเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 และได้มีการเพิ่มความคิดเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ (คชก.) อีก 165 ข้อในเวลาต่อมา ซึ่งระหว่างรอการพิจารณาได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคี ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความเห็นว่า กฟผ.ควรถอนรายงานจนกว่าผลการพิจารณาของคณะกรรมการไตรภาคีจะได้ข้อยุติ

ทั้งนี้ มติของ กพช.เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ขอให้ สผ.เริ่มกระบวนการพิจารณารายงาน EHIA ต่อนั้น ไม่ใช่เป็นการอนุมัติให้ก่อสร้างโครงการฯ แต่อย่างใด  ส่วนข้อสังเกตของคณะกรรมการไตรภาคีที่ กพช. ให้เพิ่มนั้น กฟผ.จะเร่งจัดทำเพิ่มและส่งให้ สผ.พิจารณาต่อไป


ส่วนการลงทุนเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียของบริษัท EGATi เป็นการประกันความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินในต่างประเทศที่บริษัทไปร่วมลงทุน และเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งนี้ ถ่านหินจากเหมืองแห่งนี้มีค่าความร้อนไม่ตรงกับคุณสมบัติถ่านหินที่ใช้กับโรงไฟฟ้ากระบี่ เนื่องจากไม่ใช่วัตถุประสงค์ในการลงทุนของบริษัท จึงจะไม่มีการขายถ่านหินให้โรงไฟฟ้ากระบี่  การเลือกใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า เนื่องจากมีปริมาณสำรองที่มั่นคงและมีราคาต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยถูกกว่าแอลเอ็นจี และพลังงานหมุนเวียนชนิดอื่น รวมทั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินยังเป็นโรงไฟฟ้าหลักที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง ตลอดจนใช้เทคโนโลยีสะอาดที่ทันสมัย สามารถควบคุมค่ามลสารให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

ขณะที่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ มีปริมาณ 4.7 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และโครงการโรงไฟฟ้าเทพา จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 12.9 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี เมื่อรวมทั้ง 2 โรงไฟฟ้าจะมีปริมาณเท่ากับ 17.6 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ซึ่งมีปริมาณน้อยกว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของภาคคมนาคมขนส่งและพาหนะของประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบจากข้อมูลถึง 3.7 เท่า ทั้งนี้ การเปรียบเทียบการใช้ข้อมูลจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกปี 2555 พบว่ามีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคคมนาคมขนส่งและพาหนะรวม 64.23 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี

ส่วนกรณีบริษัทจีนร่วมกับอิตาเลียนไทยเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดในการประมูลโรงไฟฟ้าฯ  ทำให้ไม่มั่นใจในเทคโนโลยีนั้น  ขอชี้แจงว่าเทคโนโลยีของบริษัทที่ชนะการประกวดราคาก่อสร้างโรงไฟฟ้าฯ จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด เนื่องจากการคัดเลือกผู้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าเป็นการคัดเลือกผ่านการประกวดราคาระดับนานาชาติที่ผู้เข้าประกวดราคาทุกรายจะต้องนำเสนอรายละเอียด และคุณสมบัติทางเทคนิค รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ให้คณะกรรมการพิจารณา โดยที่อุปกรณ์หลักจะต้องผ่านการตรวจสอบ และมีระยะเวลาการเดินเครื่องจริงตามที่กำหนด เมื่อผ่านเกณฑ์ทางเทคนิค จึงจะเปิดซองราคาต่อไป ในข้อเท็จจริงบริษัทจีนที่เสนอราคาต่ำสุดเสนอรายละเอียดของอุปกรณ์หลัก เช่น หม้อต้ม เครื่องกำจัดซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เครื่องกำจัดฝุ่น เครื่องกำจัดออกไซด์ของไนโตรเจน  เครื่องกำจัดปรอท ที่ออกแบบและผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตจากประเทศอเมริกา และเยอรมนี  ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล  รวมทั้งประเทศต่าง ๆ ทั้งสหรัฐอเมริกา เยอรมนี ญี่ปุ่น และจีน เปลี่ยนมาสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีใหม่ดังกล่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าและการควบคุมมลภาวะ เช่นในปัจจุบันสินค้าชื่อดังทั่วไปก็ผลิตจากประเทศจีนภายใต้มาตรฐานของเจ้าของสินค้านั้น ๆ


“ขอให้ประชาชนมั่นใจ กฟผ.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยภาครัฐ ว่าจะดำเนินกระบวนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินด้วยความโปร่งใสตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ  เพื่อมุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าของประเทศไทย”  โฆษก กฟผ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง