ปทุมธานี 22 ก.พ.- การหารือระหว่างดีเอสไอกับตัวแทนวัดพระธรรมกายนานหลายชั่วโมงไม่เป็นผล แม้มีพระชั้นผู้ใหญ่ช่วยเจรจาด้วย รองโฆษกดีเอสไอเผยอธิบดีดีเอสไอได้รับรายงานแล้วสั่งจากนี้่ดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้แล้วเต็มรูปแบบ
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พร้อมพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี แถลงที่หน้าห้องประชาสัมพันธ์ (informatio) ภายในประตู 7 วัดพระธรรมกาย เกี่ยวกับผลการเจรจากับวัดพระธรรมกายนานกว่า 5 ชั่วโมงว่า พระราชภาวนาจารย์ ทัตตชีโว (พระทัตตชีโว) รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งมีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจในวัดธรรมกาย ปฏิเสธเจ้าหน้าที่ในการเข้าตรวจค้น เเม้พระชั้นผู้ใหญ่มาช่วยเจรจาด้วย เพื่อทำความเข้าใจกับพระทัตตชีโวแล้วถึงที่สุดแล้ว เข้าใจว่าพระทัตตชีโวอาจอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถเอื้อการเข้าถึงข้อมูลและรับข่าวสารครบถ้วน 100% ซึ่งท่านอาจเข้าใจคาดเคลื่อนจากข้อมูลได้มา สุดท้ายสรุปว่าการเจรไม่เป็นผล หลวงพ่อทัตตชีโวไม่ให้ความร่วมมือ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
“ผู้เจ็บป่วย พระ เณร ฆราวาส ลูกจ้างวัด ทุกคนที่ประสงค์จะเดินทางออกวัด ให้มารวมตัวกันที่ประตู 7 เจ้าหน้าที่จะพาออกนอกบริเวณวัด ส่งกลับภูมิลำเนาทันที” พ.ต.ต.สุริยา กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ บก.ตชด.ภ.1 ว่า พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ ได้รายงานผลการเจรจามายังที่ประชุมให้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ทราบแล้วว่าผลการเจรจาไม่สำเร็จ จากนี้เจ้าหน้าที่ก็จะไม่มีการเจรจากันอีก ซึ่งอธิบดีดีเอสไอสั่งการให้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการที่กำหนดไว้แล้วอย่างเต็มรูปแบบ โดยกำลังเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ทหาร และตำรวจ สำหรับแผนปฏิบัติการนั้น ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด หากพบผู้กระทำความผิดขัดขวางการปฏิบัติการทำงานของเจ้าหน้าที่ ก็จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามคำสั่ง คสช.ที่ 5/2560 ส่วนปฏิบัติการในครั้งจะมีการกำหนดกรอบเวลาหรือไม่ว่าต้องปฏิบัติการให้แล้วเสร็จในเวลาไหนนั้น คงตอบได้ 2 ข้อ คือ 1.ภารกิจเสร็จ และ 2.ประเมินสถานการณ์ ส่วนการเข้าค้นในครั้งนี้ก็ยังคงเป็นไปตามหมายค้น คือเพื่อจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำความผิด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ทีแผนรองรับการปฏิบัติการในครั้งนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว.-สำนักข่าวไทย