มีชัย เผยประเมินกำหนดเวลาเลือกตั้งยาก

6029455รัฐสภา 30 ธ.ค. – ประธาน กรธ. ขอประชาชน พรรคการเมือง องค์กรอิสระเตรียมพร้อมเลือกตั้ง และการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ  ยอมรับประเมินกำหนดเวลาเลือกตั้งยาก ย้ำยึดตามโรดแม็ป


นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในช่วงการเปลี่ยนผ่าน เพื่อรับมือต่อกฎหมายใหม่ ๆ ว่า ที่ผ่านมาทุกคนตระหนักดีว่าการเมืองไทยไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งอาจเกิดจากทั้งคน และระบบ รวมถึงความไม่สอดคล้องระหว่างกฎ กติกา วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนไทย ที่หลายอย่างไม่สอดคล้องกับสังคมไทย กรธ. จึงได้กำหนดกลไกใหม่ในร่างรัฐธรรมนูญ ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า กรธ. ไม่ได้จงใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยความรังเกียจพรรคการเมือง หรือนักการเมือง แต่มุ่งมั่นให้การเมืองอยู่ในระบบที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง และแก้ปัญหาที่มีในสังคม ที่เป็นต้นเหตุของความไม่สงบสุข ซึ่งกลไกดังกล่าวอาจเป็นเรื่องแปลกใหม่ แต่หากทุกคนทำตามกติกา ทุกคนก็จะไม่ได้รับโทษตามกฎหมาย

ประธาน กรธ. กล่าวว่า ขอให้ประชาชนชน เตรียมความพร้อมและรับรู้ต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถเกิดประโยชน์ต่อตนเอง สังคม และประเทศ และไม่เป็นคนล้าหลัง จนทำให้เกิดความเสียเปรียบ ขณะที่พรรคการเมือง จะมีการเปลี่ยนแปลง  พรรคการเมืองจะเป็นสถาบันที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม สามารถคัดเลือกบุคคลเข้าสมัครรับเลือกตั้งได้ ระบบใหม่ ประชาชนมีสิทธิจะไม่เลือกใครเลยก็ได้ จากเดิมที่ประชาชนไม่มีทางเลือกอื่น เพราะพรรคการเมืองคำนึงแต่คะแนนเสียงเป็นสำคัญ แต่ครั้งนี้ หากประชาชนไม่เลือกผู้แทนคนใดในการเลือกตั้งซ่อมนั้น ผู้แทนก็ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมได้


นายมีชัย กล่าวว่า  สำหรับองค์กรอิสระ ตนมองว่าที่ผ่านมาขาดประสิทธิภาพและความรวดเร็วในในการทำงาน จนบั่นทอนชื่อเสียงของหน่วยงาน ดังนั้น เมื่อกลไกในร่างรัฐธรรมนูญเปลี่ยนไป กลไกในกฎหมายลูกก็จะต้องเปลี่ยนแปลงตามด้วย เพื่อให้องค์กรอิสระทำงานได้รวดเร็ว  องค์กรอิสระต่าง ๆ ก็จะต้องปรับกลยุทธ์ในการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญด้วย

ประธาน กรธ. ยังกล่าวถึงเงื่อนไขระยะเวลาการกลับเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยของประเทศ ว่า ประเมินได้ยาก เพราะต้องคำนึงถึงความพร้อมของพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่ยืนยันว่า กรธ. ได้พิจารณายกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยยึดโรดแม็ป ของรัฐบาล  ซึ่ง กรธ. ได้ยกร่างกฎหมาย กกต. และพรรคการเมืองก่อน เพื่อให้ปรับตัว ให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ ในกฎหมายลูก

นายมีชัย กล่าวว่า ในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ได้กำหนดระยะเวลา สำหรับการเตรียมความพร้อมของพรรคการเมืองไว้ 180 วัน หากพรรคการเมืองดำเนินการได้เสร็จสิ้นก่อน ก็จะทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นได้เร็วแต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมในวันข้างหน้าด้วย  จึงไม่สามารถยืนยันแทนใครได้ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2560 หรือ ต้นปี 2561 แต่จะต้องยึดตามโรดแม็ป ของรัฐบาลเป็นสำคัญ และ กรธ. ก็จะต้องยกร่างกฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับ ให้เสร็จสิ้นภายใน 240 วัน หลังร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้


ประธาน กรธ. ยังกล่าวถึงความเหมาะสมต่อการปลดล็อคคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองว่า เมื่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และ กกต. มีผลบังคับใช้ เชื่อว่า คสช. จะพิจารณาว่าจะดำเนินการผ่อนคลายให้พรรคการเมืองได้เมื่อใด

ส่วนการคงอำนาจตามมาตรา 44 ให้มีผลบังคับใช้ได้จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ จะเป็นอุปสรรคต่อการเข้าสู่การกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยหรือไม่นั้น  นายมีชัย กล่าวว่า  คสช. คงอำนาจไว้ เพื่อแก้วิกฤต และเป็นเครื่องมือในการบริหารประเทศ ไม่ใช่การสกัดกั้นพรรคการเมือง ในการเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง และเชื่อว่า คสช. คงตระหนักและพิจารณา ว่าจะคลี่คลายมาตรา 44 หลังกฎหมายพรรคการเมือง และ กกต. พิจารณาเช่นกัน

“ไม่สามารถรับประกันได้ว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะไม่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ในอนาคต เพราะต้องขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคน ที่จะต้องร่วมมือ หันหน้าเข้าพูดคุยกันทำให้การเมืองสุขสงบ และนำความเจ็บปวดในอดีตมาเป็นบทเรียน”นายมีชัย กล่าว  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]